เกษตรกรต้นแบบ น้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงทำการเกษตร14ปีใช้เงินลงทุนไม่ถึงหมื่นบาท

ในการลงพื้นที่เยี่ยมชมการทำเกษตรตามแนวพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในวันนี้ นายจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ลงพื้นที่ตำบลโพนแพง อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร ท่ามกลางเกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการจำนวนมากร่วมให้การต้อนรับ

 

นายวงศ์สถิตย์ โมราราษฎ์ อายุ 56 ปี เกษตรกรต้นแบบ เล่าว่า เหตุผลที่เริ่มต้นทำการเกษตรเพราะเกิดจากครอบครัวเกษตรกร และเรียนจบมาทางด้านการเกษตร ขณะเข้ารับราชการครูมีความคิดอยากทำการเกษตร จึงตัดสินใจซื้อที่ดิน และทำการเกษตรแบบผสมผสาน ก่อนจะหันไปทำธุรกิจค้าขาย จนประสบปัญหาทางการเงิน อยู่ 4 ปี แต่ที่กลับมาพลิกฟื้นได้ เพราะได้ฟังพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ถึงคำว่าพอมีพอกิน ว่าเกษตรกรทำอะไรก็ได้ ในสิ่งที่ตัวเองทำได้  ในสิ่งที่ตัวเองทำเป็น โดยไม่ต้องไปเรียน ไปศึกษา ไปอบรม ทำในสิ่งที่ลงทุนน้อยหรือไม่ได้ลงทุน ทำในสิ่งที่เป็นผลผลิตขึ้นมา ถ้ากินได้ให้ลองกิน ถ้าใช้ได้ให้ลองใช้ และแบ่งปันเพื่อนบ้านให้ได้กินได้ใช้บ้าง แล้วถามด้วยว่าดีหรือยัง หากไม่ดีปรับปรุงแก้ไขอย่างไร ถ้ามีคำแนะนำ ให้นำมาปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น เมื่อปรับปรุงแก้ไขดีขึ้นแล้ว ทำให้เป็นผลผลิตให้เป็นอาชีพ แล้วแบ่งเงินเป็น 3 ส่วน หลังจากนั้นจึงได้น้อมนำพระราชดำรัสมาเขียนเป็นแผนฟื้นฟูตัวเอง เริ่มทำการเกษตรปลูกผักจากสิ่งที่ไม่ได้ซื้อ ที่ได้จากเพื่อนบ้านมาขยายพันธุ์ ซึ่ง 14 ปีที่ทำการเกษตรมา ใช้เงินลงทุนไม่ถึงหลักหมื่น เพราะอาศัยนำสิ่งที่มีอยู่มาขยายพันธุ์ ทั้งพืชและสัตว์ ปัจจุบันนายวงศ์สถิตย์ ใช้พื้นที่เลี้ยง หมู เป็ด ไก่ เลี้ยงปลาแบบบ่อหนาแน่น  ส่วนพืชผล เพาะเห็ด ปลูกข้าว และเน้นปลูกพืชตระกูลส้มเป็นหลัก นำผลผลิตบริโภคในครัวเรือน และส่งออกตามตลาด โดยมีลักษณะเด่น คือไม่ใช้สารเคมี จำกัดศัตรูพืช ทำให้ได้รับความนิยมสร้างชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น

นอกจากนี้ยังสร้างเครือข่ายให้กับเพื่อนบ้าน ส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้ โดยปัจจุบันมีสมาชิกเครือข่าย 66 คน ส่วนปัญหาหาที่พบคือ เรื่องสภาพดิน ที่แตกต่างกัน จึงได้แนะนำให้ใช้ปุ๋ยคอกร่วมกับแกลบ และทำปุ๋ยหมักเป็นหลัก ส่วนปัญหา ขาดแคลนน้ำ ได้แนะนำให้นำเศรษฐกิจทฏษฏีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 มาใช้

..

ผสข.เกตุกนก ครองคุ้ม