หุ้นสหรัฐฯ ปิดพุ่งแรง ได้แรงหนุนหุ้นกลุ่มค้าปลีก ชาวอเมริกัน ช็อปในวันแบล็คฟรายเดย์

ความเคลื่อนไหวสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด เดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 93 เซนต์ ปิดที่ 58.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 31 เซนต์ ปิดที่ 63.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันยังอยู่ภายใต้แรงกดดันจากรายงานคลังเชื้อเพลิงสำรองของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ ที่เผยให้เห็นว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วสต๊อกน้ำมันดิบลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล  นอกจากนี้แล้วเมื่อวันศุกร์ น้ำมันยังได้แรงหนุนเพิ่มเติม หลังทราส์แคนาดา ผู้บริหารงานท่อลำเลียงคีย์สโตน เปิดเผยว่า การจ่ายน้ำมันจากท่อลำเลียงดังกล่าวไปยังสหรัฐฯ จะลดลงร้อยละ 85 ไปจนถึงช่วงสิ้นเดือนพฤศจิกายน หลังจากเกิดปัญหาน้ำมันรั่วแถวรัฐเซาธ์ดาโกตาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดันวอลล์สตรีทปิดบวก เอสแอนด์พี500 ดีดตัวเหนือ 2,600 จุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ส่วนแนสแดคทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลอีกครั้ง ขณะที่อเมซอนและหุ้นกลุ่มค้าปลีกได้แรงหนุนจากสัญญาณยอดขายอันแข็งแกร่งในช่วงเริ่มต้นของฤดูกาลช็อปปิ้ง ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 31.81 จุด ปิดที่ 23,557.99 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 5.34 จุด  ปิดที่ 2,602.42 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 21.80 จุด ปิดที่ 6,889.16 จุด 

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เปิดทำการซื้อขายเพียงครึ่งวันเมื่อวันศุกร์  ซึ่งเรียกกันว่าวัน แบล็คฟรายเดย์ และถือเป็นวันเริ่มต้นของฤดูกาลช็อปปิ้งในอเมริกาอย่างไม่เป็นทางการ หลังจากที่ปิดทำการวันพฤหัสบดี เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า 

ห้างร้านต่างๆในสหรัฐฯพากันลดราคา ดึงดูดประชาชนให้ซื้อสินค้า พวกนักช็อปปิ้งบางส่วนยังแค่จับตาสำรวจราคาดูท่านั้น ด้วยหวังเก็บเงินไว้จับจ่ายทางออนไลน์แทน อะโดบี อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า ชาวอเมริกันใช้จ่ายผ่านระบบออนไลน์เป็นจำนวนเงินมากกว่า 2,870 ล้านดอลลาร์เมื่อวันพฤหัสบดี ตามเวลาสหรัฐฯ

ส่วนราคาทองคำ ปิดลบเล็กน้อย นักลงทุนเทขายทำกำไรก่อนเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 4.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,287.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แฟ้มภาพ