การเปิดนิทรรศการสืบสาน ต่อยอด พัฒนา ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ ในโอกาสครบรอบ 35 ปี การดำเนินงานของศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดสกลนคร และเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ได้พระราชทานพระราชดำริในการจัดตั้งศูนย์แห่งนี้ขึ้น นายจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นประธานพร้อมเยี่ยมชม นิทรรศการภายในบริเวณงาน เช่น นิทรรศการหลักการทรงงาน ภาพการเสด็จพระราชดำเนินก่อนและหลังกำเนิดศูนย์นิทรรศการผลสำเร็จด้านต่างๆ พร้อมกล่าวว่า ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีผลสำเร็จเป็นรูปธรรม นับว่าได้รับชื่อเสียงด้านงานวิจัย เป็นที่ให้เกิดความรู้ความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่และทางเลือกสำหรับการประกอบอาชีพให้กับประชาชนและเกษตรกร ซึ่งได้เสนอในรูปแบบนิทรรศการครั้งนี้ เพื่อจัดแสดงให้กับผู้สนใจ เป็นระยะเวลา 2 วัน ซึ่งประชาชนสามารถเข้าชมและหาความรู้เพื่อนำไปใช้ในการปฏิบัติต่อไป
นายสัตวแพทย์วิสุทธิ์ เอื้อกิ่งเพชร หัวหน้างานศึกษาและพัฒนาด้านปศุสัตว์ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กล่าวว่า โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสไว้ เพื่อตอบโจทย์ตามความต้องการของเกษตรกร ซึ่งส่วนที่ดูแลรับผิดชอบ คือ ดูแลเรื่อง 3 ดำมหัศจรรย์ ประกอบด้วยไก่ดำภูพาน ปัจจุบันมี 3 สายพันธุ์ ต่างกันที่สีขน คือมีสีดำ สีขาวและเหลืองทอง มีคุณสมบัติเลี้ยงง่าย สร้างผลผลิตทั้งเนื้อดำ หนังดำและกระดูกดำ ขายได้ในราคาดี
หมูดำ พัฒนามาจากหมูเหมยซาน ให้ไขมันสูง มีผิวดำเนื้อสีแดง ปัจจุบันเรียกว่าอีกชื่อว่า หมูดำภูพานคุโรบุตะ เนื่องจากเนื้อของหมูดำมีลักษณะคล้ายกับเนื้อของหมูคุโรบุตะในญี่ปุ่น เป็นนวัตกรรมที่ โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พัฒนาขึ้นมา และโคดำภูพาน พัฒนาจากโคเนื้อญี่ปุ่นสายพันธุ์ทาจิมะ ที่ทางรัฐบาลญี่ปุ่นน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ในปี 2531 โดยเน้นพัฒนาง่าย ต้นทุนไม่สูงมาก ได้เนื้อคุณภาพดี เทียบเท่ากับต่างประเทศ เป็นแนวทางใหม่ที่ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ภายใต้นวัตกรรมที่มีอยู่ ซึ่งสัตว์ 3 ดำมหัศจรรย์ถือเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดที่สามารถพัฒนาขึ้นได้
นอกจากนี้ยังพัฒนากระต่ายดำภูพาน ที่เกิดมาจากความต้องการตอบโจทย์สำหรับเกษตรกรที่ยากจน ไม่มีทุนซื้อหัวอาหาร ซื้อวิตามิน ซึ่งกระต่ายดำจะต้องการแค่หญ้ากับน้ำก็สามารถเติบโต เป็นเนื้อกระต่ายที่สามารถผลิตลูกได้ถึง 25 ตัว มีค่าเท่ากับเนื้อ 25 กิโลกรัม นำไปแก้ไขปัญหาเรื่องโภชนาการสำหรับผู้ที่อยู่ห่างไกล และจำหน่ายสร้างรายได้ให้เกษตรกร อย่างไรก็ตามกระต่ายดำภูพาน จะใช้ระยะเวลาพัฒนาอีกประมาณ 1 ปี เพื่อหาเทคโนโลยี นวัตกรรม ให้ได้สายพันธุ์ที่ดี
สอดคล้องกับสภาพภูมิสังคมความเป็นอยู่ของเกษตรกร โดยสัตว์ทั้งหมดที่ได้คิดค้นพัฒนาขึ้นมาเกษตรกรที่สนใจสามารถเดินทางเข้าอบรมที่ศูนย์ เพื่อให้ได้รับความรู้ ก่อนนำสัตว์ไปเลี้ยงเพื่อไปเพาะพันธุ์ หรืออาจซื้อพันธุ์สัตว์จากเครือข่ายที่มีอยู่เป็นการหมุนเวียน สร้างกำลังใจให้คนเลี้ยง ทั้งนี้สำหรับศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีแนวทางคือ การเพาะเลี้ยงเพื่อบริโภค แก้ไขปัญหาการขาดโปรตีนในครัวเรือน และหากมีปริมาณเหลือก็นำไปจำหน่ายสร้างรายได้ให้กับครอบครัว
ทั้งนี้ ในฐานะที่เป็นคนไทย ที่เกิดในแผ่นดินไทย เป็นความภาคภูมิใจ ที่ได้ทำงานในโครงการพระราชดำริ เป็นเกียรติสูงสุดในการเป็นข้าราชการ แต่การเป็นข้าราชการในโครงการพระราชดำริเป็นเกียรติสูงสุดยิ่งกว่าเพราะได้ทำงานเพียงเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้แบ่งเบาพระราชกรณียกิจ และเมื่อนำพันธุ์สัตว์ที่ได้คิดค้นส่งต่อให้กับเกษตรกร ได้ติดตามผลได้เห็นรอยยิ้ม ของเกษตรกร ก็เป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ที่ได้ทำโครงการนี้ และเชื่อว่าความหวังเดียวของโครงการพระราชดำริ คือหวังที่จะได้เห็นความอยู่ดี กินดีและรอยยิ้มของประชาชน