ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.
+++11 จว.ภาคใต้ ยังคงมีฝนตกหนักถึง 28 พฤศจิกายน นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)กล่าวว่าสถานการณ์อุทกภัยน้ำไหลหลากและน้ำเอ่อล้นตลิ่งจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชันการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนอุบลรัตน์ ตั้งแต่วันที่10ต.ค.-23พ.ย.ทำให้เกิดน้ำไหลหลากและน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่23 จังหวัด รวม79 อำเภอ 482 ตำบล ประชาชนได้รับผลกระทบ126,390 ครัวเรือน327,420 คน ผู้เสียชีวิต29ราย สถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี แม้เขื่อนเพชรได้ลดการระบายน้ำเนื่องจากปริมาณน้ำเหนือเขื่อนลดลงแล้ว แต่ยังน่าเป็นห่วง ล่าสุดเช้า ในเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรีระดับน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อยู่ที่ประมาณ 15-40 เซนติเมตร ยังขยายวงกว้าง ท่วมผิวการจราจรและบ้านเรือนประชาชน
เนื่องจากแม่น้ำเพชรบุรีเอ่อท่วม เช้ายังมีน้ำท่วมขัง ชาวบ้านบางแห่งต้องใช้เรือในการสัญจร ในส่วนที่เขื่อนเพชร เจ้าหน้าที่ ได้ปรับลดการระบายน้ำท้ายเขื่อนเหลือ 280 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เนื่องจาก เหนือเขื่อนมีปริมาณน้ำไหลเข้าน้อยลง ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีที่ไหลผ่านตัวเมือง จะทรงตัวระดับนี้อีก5-7วัน โดยที่เทศบาลได้เร่งระดมเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำออกจากเขตเมือง
+++จ.พัทลุง มีน้ำป่าไหลหลากลงมาจากเทือกเขา ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน พื้นที่ทางการเกษตร เส้นทางสัญจรหลายหมู่บ้านของ อ.กงหรา อ.ตะโหมด และ อ.ศรีนครินทร์ และมีปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขยายวงกว้างออกไปยังพื้นที่หมู่บ้านข้างเคียง สำหรับในพื้นที่ริมป่าเทือกเขาบรรทัด ยังคงมีเมฆฝนหนักปกคลุมเป็นส่วนใหญ่ ทางจังหวัดพัทลุงจึงได้ออกแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่รับน้ำตอนล่าง ที่เจอปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากทุกปีให้เตรียมรับมือน้ำท่วมและให้อพยพสิ่งของขึ้นที่สูง เป็นการด่วน
+++เช่นเดียวกับ13 อำเภอใน จ.นราธิวาส เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักลมกระชากแรงตลอดทั้งคืนส่งผลให้ต้นไม้ใหญ่โค่นล้มทับ ถนนดชรัตน์ ต.บางนาค อ.เมืองนราธิวาส นายสุรพร พร้อมมูล ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสทำหนังสื่อด่วนแจ้งไปยังอำเภอในพื้นที่เสี่ยงดินถล่มให้เตรียมความพร้อม เข้าช่วยเหลือทันที หากเกิดเหตุขึ้น ส่วนพื้นที่ราบลุ่มให้อำเภอแจ้งประชาชนเตรียมความพร้อม รับมือน้ำท่วมและให้ประชาชนอพยพเคลื่อนย้ายสัตว์เลี้ยงรถจักรยานยนต์และรถยนต์ไปไว้ในที่สูงเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
+++ต้องรอ พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เชิญครอบครัวของนักเรียนเตรียมทหาร ภัคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือน้องเมย มาพูดคุยเพื่อหาทางออกและสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการเสียชีวิตที่กองบัญชาการทหารสูงสุด
+++ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถูกถามว่า นายกฯรู้สึกอย่างไร กับประโยคที่ระบุว่า ถ้าไม่อยากเจอหนักแบบนี้ ก็ไม่ต้องมาเรียนเตรียมทหาร นายกฯ กล่าวว่า "คุณจะว่ารองนายกรัฐมนตรี (พล.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม) ผมใช่ไหม ท่านก็บอกแล้วว่า ไม่ได้ตั้งใจตอบแบบนั้น บางทีสื่อก็ถามให้อารมณ์เสีย ท่านไม่ได้ตั้งใจตอบแบบนั้น"เมื่อการถามถึงการปรับระเบียบเรื่องซ่อม ธำรงวินัย พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินเข้ามาตรงผู้ สื่อข่าวคนที่ถาม พร้อมกับย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า "ว่าไง มันเป็นอย่างไรเหรอ" ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า บางทีรุ่นพี่ ก็ซ่อมหนักไป อยู่นอกสายตา ผู้หลักผู้ใหญ่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขามีบรรทัดฐานอยู่ บางคนเขาก็ผ่านกันมาแล้ว ฉะนั้น เขารู้ว่าอะไรเป็นอะไร ถ้าเราไปแก้ปัญหาผิดวิธี ก็ไม่ได้ ก็จะเสียหายกันหมด ท่านลองไปดูต่างประเทศ ก็มีธำรงวินัยแบบนี้เช่นกัน
+++พล.ท.ณตฐพล บุญงาม โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ธารไชยยันต์ สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ว่า เบื้องต้น พล.ต.กนกพงษ์ จันทร์นวล ผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหาร ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน ถึงสาเหตุการเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งในส่วนของโรงเรียนเตรียมทหาร ได้ดำเนินการไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นประเด็นการตรวจสอบข้อมูลถึง การซ่อม นตท.ภคพงศ์ ของรุ่นพี่ หรือข้อมูลการตรวจของทางการแพทย์ ซึ่งได้ดำเนินการหลังจาก นตท.ภคพงศ์ เสียชีวิต เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดรายงานต่อผู้บังคับบัญชาในภาพรวมไปแล้ว
++++พล.อ.ธารไชยยันต์ ได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้ พล.อ.อ.ชวรัตน์ มารุ่งเรือง รองเสนาธิการทหาร เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ในการเสียชีวิตของ นตท.ภคพงศ์ แล้ว พร้อมกำชับให้ตรวจสอบถึงความคืบหน้าต่างๆ ในภาพรวม นอกจากนี้ จะตรวจสอบถึงเรื่องการซ่อมของรุ่นพี่ด้วย ว่าทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ เพราะโดยปกติ ถือเป็นระเบียบปฏิบัติ ที่ห้ามทำอะไรเกิดกว่าเหตุอยู่แล้ว ใครก็ตามที่กระทำผิด ก็จะต้องถูกรับโทษตามระเบียบ เพราะทางโรงเรียนเตรียมทหาร มีระเบียบที่เคร่งครัดถึงการซ่อมรุ่นน้องของรุ่นพี่
++++อีกด้าน เมื่อเวลา 11.15 น. ครอบครัวของ นตท.ภัคพงศ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ทำสำนวนการชันสูตรพลิกศพ เดินทางมายังโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เพื่อขอรับชิ้นส่วนอวัยวะภายในต่างๆ ของน้องเมย อาทิ สมอง หัวใจ ปอด กระเพาะอาหาร ลำไส้ ตับ ไต ม้าม ที่บรรจุไว้ในกล่องโฟม เพื่อนำไปให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ทำการตรวจพิสูจน์อีกรอบ หลังจากญาติยังสงสัยในประเด็นการเสียชีวิต ก่อนจะเดินทางไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ รังสิต ส่งมอบชิ้นส่วนอวัยวะ ของ นตท.ภคพงศ์ ให้เจ้าหน้าที่ทำการชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต ต่อไป
+++พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า แนวทางการชันสูตรศพนั้น ถ้าเป็นด้านพยาธิแพทย์ซึ่งเป็นการตรวจวินิจฉัยโรค จะตัดชิ้นส่วนบางส่วนไปตรวจสอบ ซึ่งการตรวจเช่นนี้ ส่วนใหญ่จะต้องแจ้งให้ญาติผู้ตายทราบ ส่วนการผ่าพิสูจน์ทางนิติเวช เบื้องต้นจะเหมือนกับการตรวจทางด้านพยาธิแพทย์ คือการตรวจอวัยวะและนำห่อกลับคืน ก็ต้องมีการแจ้งญาติ แต่ในประเทศไทยยังไม่มีข้อกำหนดในการดำเนินการดังกล่าว จุดนี้จึงควรเป็นอีกหนึ่งข้อในการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมทางนิติวิทยาศาสตร์
+++วันนี้เวลา 14.00 น. พล.ต.อ..อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะแถลงข่าว เรื่อง การดำเนินการตามผลการชี้มูลความผิดของ ปปช. กรณีการประดับไฟลานคนเมือง 39.5 ล้านบาท หลังมติของคณะอนุกรรมการวิสามัญเกี่ยวกับวินัยและการออกจากราชการ (อ.ก.ก.วินัย) ที่ให้ไล่ออกข้าราชการ 4 ราย ได้แก่ น.ส.ปราณี สัตยประกอบ อดีตรองปลัด กทม. และอดีตผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว นายธวัชชัย จันทร์งาม รองผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรมฯ นายมรกต ภูมิพาณิช และนายสิทธิโชค อภิบาล นักพัฒนาการท่องเที่ยวปฏิบัติการ ฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการในโครงการประดับตกแต่งไฟฟ้าเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว (Motif of Light) วงเงิน 39.5 ล้านบาท บริเวณลานคนเมือง ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2558 ถึงวันที่ 30 มกราคม 2559 อย่างไรก็ตาม ข้าราชการทั้ง 4 ราย สามารถยื่นอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการ กทม. (ก.พ.ค) ได้ตามขั้นตอน