+++คณะกรรมาธิการ(กมธ.)สามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)คณะชั่วคราว หรือ วิป สนช. จะประชุมกำหนดระเบียบวาระในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวันที่ 21 ส.ค.นี้ ซึ่งวาระด่วนคือการพิจารณาผู้สมควรได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. เปิดเผยว่า การประชุมสนช. พรุ่งนี้เวลา 10.00น.กระบวนการลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรี คงเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่เคยมีการปฏิบัติในอดีต ที่ให้มีการเสนอชื่อและลงมติโดยเปิดเผย ใช้จำนวนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของจำนวน สนช.ที่มีอยู่ ส่วนบุคคลในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สามารถดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ เห็นว่าตามกฎหมายไม่ได้ห้ามข้าราชการประจำมาดำรงตำแหน่งทางการเมือง รวมทั้งตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ก็ถือเป็นข้าราชการประจำ เนื่องจากมีข้อยกเว้นตามมาตรา 41 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว
+++การดูแลรักษาความปลอดภัยในวันพรุ่งนี้ เจ้าหน้าที่ประชุมเตรียมพร้อมแล้ว พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการกองบัญชาการศึกษา ปฏิบัติราชการรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ประชุมความมั่นคงร่วมกับทุกหน่วยงาน วางมาตรการรักษาความปลอดภัยแก่สมาชิกและสถานที่ ไม่ให้เหมือนกรณีการสร้างความวุ่นวายของกลุ่มผู้ชุมนุมโปรยใบปลิวที่บริเวณหน้าศาลปกครอง และศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ มีการวางกำลังเจ้าหน้าที่กำลังหลักและกำลังสำรองปฏิบัติหน้าที่คู่ขนานกับการประชุม เรื่องการโปรยใบปลิวที่หน้ากองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าด้านการสืบสวนสอบสวน พอรู้ตัวบุคคลแล้ว อยู่ระหว่างการติดตามจับกุม
+++ขณะที่ วันนี้นอกจากการประชุมวิปสนช.แล้ว ยังมีการประชุมของคณะกรรมาธิการสามัญยกร่างข้อบังคับการประชุมสนช.ด้วย พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่ 1 เปิดเผยว่า จะมีการบรรจุหมวดการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ลงในข้อบังคับการประชุม สนช.
+++กระแสเรื่องการล็อคสเปคการสรรหาบุคคลเข้ามาเป็นสภาปฎิรูปแห่งชาติ(สปช.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษาคสช. เน้นย้ำให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ประสานทำความเข้าใจไปยังคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัด รวมทั้งให้ประสานไปยังกระทรวงมหาดไทย ขอให้ทำความเข้าใจกับผู้ว่าราชการจังหวัดที่เป็นประธานคณะกรรมการสรรหาว่า ในการเปิดรับการเสนอชื่อ และการสรรหา ขอให้ดำเนินการอย่างเปิดเผย โปร่งใส อย่าทำในลักษณะที่เป็นการปฏิเสธรับการเสนอชื่อ เพื่อให้ได้บุคคลที่มีความหลากหลาย ขณะที่ ในวันที่ 4 ก.ย. จะมีการนัดประชุมคณะกรรมการสรรหา สปช.ครั้งแรก ทั้ง 11 คณะ เพื่อคัดเลือกกรรมการคนหนึ่งให้ทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการ สรรหา ทั้งนี้ การประชุมทุกครั้งจะใช้มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด เป็นสถานที่ประชุม เนื่องจากเชื่อว่าจะสามารถรักษาความลับในการคัดเลือกบุคคลของคณะกรรมการสรรหาทั้ง 11 คณะได้
+++วันนี้ติดตามการประชุมกกต.ด้วย ที่จะมีการหารือเรื่องข่าวล็อคสเปค และมีการคัดเลือกกกต.2คน เข้ารับการสรรหาเป็นสปช.
+++สรุปการสมัครเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสปช. เมื่อวานนี้เป็นวันที่ 6 นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการกกต.แถลงว่า สรุป 6 วัน มีผู้สมัคร 736 คน คาดว่า ภายในสัปดาห์นี้ยอดรับการเสนอน่าจะเกิน 1,000 คน มีการสมัครไปจนถึงวันที่ 2 ก.ย.
+++นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กล่าวว่า ขณะนี้มี สนช. บางส่วนเริ่มทยอยยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อสำนักงาน ป.ป.ช.แล้ว สามารถยื่นบัญชีได้ถึงวันที่ 5 ก.ย. หากสมาชิก สนช.คนใดไม่ยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินจะมีความผิดตามกฎหมาย ป.ป.ช.
+++ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ(ก.ต.ช.) ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาหัวหน้า คสช. เป็นประธาน ก.ต.ช.จะชี้ขาดคู่ชิงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในวันนี้ ระหว่างพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.และ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร. เวลา 10.00 น.แทน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่จะเกษียณอายุราชการ เป็นครั้งแรกที่พล.อ. ประยุทธ์ จะเป็นประธานการประชุมด้วยตนเอง มีรายงานระบุว่า การแต่งตั้งผบ.ตร.ครั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาความขัดแย้งแตกแยกภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะมี 2 รองผบ.ตร.ผลงานโดดเด่นเคียงคู่กันมา จึงมีแนวโน้มที่จะเสนอชื่อ พล.ต.อ. สมยศ เป็นผบ.ตร.คนใหม่ ดำรงตำแหน่ง 1 ปีก่อนจะเกษียณอายุราชการปี 2558 ก่อนส่งต่อตำแหน่งให้กับพล.ต.อ.เอก รองผบ.ตร. ที่มีกำหนดเกษียณอายุในปี 2559 องค์ประชุม การแต่งตั้ง ผบ.ตร.มีการขับเคี่ยวกันมากที่สุด
+++องค์ประชุม ก.ต.ช. ในการประชุมนัดแต่งตั้ง ผบ.ตร. มี 6 คน ประกอบด้วย พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธาน นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รักษาราชการปลัดกระทรวงยุติธรรม นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหม นายสมศักดิ์ โชติรัตนศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ และ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. เป็นกรรมการและเลขานุการ
+++ตามข้อบังคับ ก.ต.ช.ว่าด้วยการประชุมและการลงมติของ ก.ต.ช.และของอนุกรรมการ ก.ต.ช. พ.ศ. 2547 ระบุว่า การออกเสียงลงคะแนนให้ถือเสียงข้างมากตามองค์ประชุมในแต่ละครั้ง เว้นแต่กฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น โดยกรรมการ 1 คน ลงคะแนนได้ 1 คะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานออกเสียงชี้ขาด ซึ่งการออกเสียงลงคะแนนให้กระทำโดยเปิดเผย เว้นแต่กรณีที่กฎหมายบัญญัติหรือกรรมการ ก.ต.ช.ไม่น้อยกว่าสามในสี่มีมติให้กระทำโดยวิธีลับ การออกเสียงลงคะแนนโดยเปิดเผยให้ใช้วิธียกมือขึ้นพ้นศีรษะ การออกเสียงลงคะแนนโดยวิธีลับให้ใช้วิธีเขียนเครื่องหมายลงบนแผ่นกระดาษใส่ซองที่จัดไว้ เมื่อนับคะแนนเสียงเสร็จแล้วให้ประธานในที่ประชุมประกาศผลการออกเสียงลงคะแนนทันที
+++มีข่าวว่าจะมีการโยกย้ายปรับเปลี่ยนตำแหน่งภายในกระทรวงมหาดไทย โดยให้นายภาณุ อุทัยรัตน์ ย้ายจากเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ เลขาฯ ศอ.บต. มาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง แทนนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ที่จะถูกโยกย้ายไปประจำที่สำนักนายกรัฐมนตรี และจะเกษียณอายุราชการในปี 2559 มีการสอบถามนายวิบูลย์ มีความตั้งใจว่า หากมีประกาศแต่งตั้งโยกย้ายเช่นนั้นจริง จะทำหนังสือลาออกจากราชการ ส่วนตำแหน่งอื่นๆ เช่น โยกย้าย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มาเป็นอธิบดีกรมการปกครอง นายจรินทร์ จักกะพาก จากรองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นด้วย เช่นเดียวกับอธิบดีกรมอื่นในกระทรวงมหาดไทยก็จะถูกโยกย้ายเช่นกัน มีรายงานแจ้งว่า ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ตัดสินใจขอเลื่อนการโยกย้ายออกไปก่อน