ยังมีความวุ่นวายเกิดขึ้นต่อเนื่องที่เมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี สหรัฐ หลังเกิดเหตุตำรวจยิงนายไมเคิล บราวน์ วัย18ปี วัยรุ่นผิวสีเสียชีวิตเมื่อวันที่9ส.ค. ทั้งๆที่เขาไม่มีอาวุธและยกมือขึ้นเหนือศีรษะแล้ว ล่าสุด นายแซม ดอทสัน ผู้กำกับการตำรวจเมืองเซนต์หลุยส์ วิตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า ตำรวจได้รับแจ้งและพบว่ามีชายคนหนึ่งพยายามปลุกปั่นการชุมนุมอย่างเห็นได้ชัด โดยในมือของเขาถือมีดพร้อมกับตะโกนว่า “ฆ่าฉันซิ” และพยายามเข้ามาประชิดตำรวจ ทั้งนี้ ตำรวจได้เตือนเขาผ่านคำพูดแล้วและตำรวจก็เกรงว่าการกระทำดังกล่าวจะทำให้ผู้อื่นไม่ปลอดภัย หลังจากนั้น ตำรวจสองนายจึงตัดสินใจยิงชายคนดังกล่าวเสียชีวิต หลังตำรวจยิงปืนใส่ชายผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าว
ขณะที่ผู้ชุมนุมประท้วงคนอื่นได้มาปักหลังประท้วงยังจุดเกิดเหตุหลังแนวกั้นห้ามเข้า หน้าร้านสะดวกซื้อในเมืองเซนต์หลุยส์โดยบางคนตะโกนว่า “ยกมือขึ้น อย่ายิง”
ด้านร.ต.อ.เอ็ด คันท์ซ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอยู่ ซึ่งอยู่บนพื้นฐานข้อมูลของตำรวจที่ได้รับมาและเห็นว่าค่อนข้างจะสมเหตุสมผลแล้ว ขณะเดียวกัน ก็ยอมรับว่าการที่ตำรวจยิงผู้ชุมนุมจะยิ่งทำให้เกิดแรงกดดันมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยืนยันว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินก่อนเหตุประท้วงในเมืองเฟอร์กูสันซึ่งตั้งอยู่บริเวณชานเมืองเซนต์หลุยส์นั้นเริ่ม อย่างไรก็ตาม ตำรวจสหรัฐ รายงานว่า มีผู้ถูกควบคุมตัวอีก 31 คน
ขณะที่ ร.ต.อ.รอน จอห์นสัน ตำรวจทางหลวงรัฐมิสซูรี กล่าวว่า ตำรวจ 4 นายได้รับบาดเจ็บจากสิ่งของที่ขว้างเข้ามา และผู้ประท้วงบางส่วนในฝูงชนที่มาชุมนุมราว 200 คน เดินทางมาไกล ทั้งจากนิวยอร์กและแคลิฟอร์เนีย เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาเพื่อสลายฝูงชนในชุมชนซึ่งเป็นคนผิวดำส่วนใหญ่ ในขณะที่ตำรวจส่วนใหญ่เป็นคนผิวขาว