+++ตำรวจชุดปราบปรามอาชญากรรมในเมืองเฮ็สเซินและอัยการสูงสุดในเมืองแฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี ระดมตำรวจ500นาย สามารถสกัดแผนโจมตีตลาดคริสต์มาสในเมืองเฮ็สเซิน ได้สำเร็จ หลังจับผู้อพยพชาวซีเรีย 6 คนระหว่างการจู่โจมตรวจค้นบ้านต้องสงสัยหลายแห่งใน 4 เมือง ตำรวจ เชื่อว่า ผู้ถูกจับกุมทั้ง 6 คน เคยยื่นเรื่องการลี้ภัยให้รัฐบาลเยอรมนีพิจารณาแล้วเป็นสมาชิกกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)ในซีเรีย คนร้ายอยู่ระหว่างการเตรียมพร้อมเพื่อลงมือก่อเหตุร้ายในเยอรมนี เช่นการเตรียมเรื่องอาวุธปืนและการไปดูลาดเลาจุดที่จะก่อเหตุบางแห่ง ที่มีผู้คนพลุกพล่าน เช่นตลาดคริสต์มาสในเมืองดังกล่าว และคนร้ายยอมรับว่าเคยไปดูลาดเลาจุดที่จะก่อเหตุคือ อาคารหลายแห่งในกรุงเบอร์ลินด้วย
+++ก่อนหน้านี้ มีคนเสียชีวิต12 ศพและบาดเจ็บกว่า 50 คนหลังคนร้ายคือนายอานิส อัมรี ผู้อพยพชาวตูนีเซียและสมาชิกกลุ่มไอเอสก่อเหตุขับรถบรรทุกพุ่งชนคนในตลาดคริสต์มาสในกรุงเบอร์ลิน ซึ่งมีผู้คนพลุกพล่าน ต่อมาคนร้ายหลบหนีเข้าไปยังอิตาลีและเสียชีวิตหลังการยิงต่อสู้กับตำรวจ
+++นายไมเคิล คีแนน รัฐมนตรียุติธรรมของออสเตรเลีย กล่าวในระหว่างการประชุมว่าด้วยการต่อต้านการก่อการร้ายที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ของมาเลเซีย ว่า ความร่วมมือในการจัดตั้งกลุ่มพันธมิตรดังกล่าวมีเป้าหมายในการขัดขวางการให้เงินทุนสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายติดอาวุธ ด้วยวิธีการแบ่งปันข้อมูลด้านข่าวกรองทางการเงินที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม เสถียรภาพและความมั่นคงของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อออสเตรเลีย
+++รัฐบาลออสเตรเลียมีความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะภัยคุกคามจากกลุ่มก่อการร้ายในภูมิภาค ซึ่งร่วมถึงกลุ่มไอเอสด้วย นายคีแนนกล่าวว่า ตามแนวทางความร่วมมือนี้ ประเทศที่เข้าร่วมมือเป็นภาคี จะต้องมุ่งเป้าโดยตรงในการขัดขวางเส้นทางการเงินที่สนับสนุนหล่อเลี้ยงกลุ่มก่อการร้าย ด้วยการมิให้กลุ่มก่อการร้ายเข้าถึงระบบการเงินระหว่างประเทศและแห่งเงินทุนอื่นๆ
+++สำนักงานด้านข่าวกรองทางการเงินของออสเตรเลีย และสภาป้องกันปราบปรามการฟอกเงินของฟิลิปปินส์จะเป็นแกนนำของกลุ่มที่เรียกว่า คณะทำงานป้องกันการสนับสนุนทางการเงินแก่กลุ่มก่อการร้ายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การจัดตั้งกลุ่มความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นความพยายามครั้งล่าสุดในการเพิ่มความร่วมมือในระดับภูมิภาคเพื่อต่อต้านกลุ่มก่อการร้าย
+++นายลู่ กัง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน ระบุว่า รัฐบาลจีนตำหนิสหรัฐฯกรณีการลงมติคว่ำบาตรเพิ่มเติมพ่อค้าชาวจีนที่ทำธุรกิจกับเกาหลีเหนือ รัฐบาลจีน ทำตามมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอย่างเคร่งครัดในเรื่องการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือหลังการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เมื่อต้นเดือนกันยายน รัฐบาลจีนไม่เห็นด้วยกรณีประเทศใดประเทศหนึ่งจะดำเนินมาตรการคว่ำบาตรประเทศอื่นไปโดยลำพังโดยใช้กฏหมายและกฏระเบียบภายในของตัวเอง โดยรัฐบาลจีนขอให้สหรัฐฯแสดงหลักฐานว่าพ่อค้าจีนละเมิดมติยูเอ็นจริง หากพบว่าพ่อค้าและบริษัทจีนทำผิดจริง รัฐบาลจีนจะลงโทษบุคคลและองค์กรเหล่านั้นตามกฏหมายภายในของประเทศจีนต่อไป
+++ด้านกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ เปิดเผยคำสั่งของรัฐบาลสหรัฐฯเรื่องการห้ามค้าขายกับเกาหลีเหนือเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ แต่น่าสังเกตว่า กระทรวงการคลังสหรัฐฯได้เพิ่มรายชื่อบุคคลและองค์กรที่ถูกคว่ำบาตรเพิ่มเติมจากครั้งก่อนคือ พ่อค้าชาวจีน 1 คนคือนายซุน ซีดอง นักธุรกิจจีนและบริษัทของเขาคือบริษัทดันดอง ดองหยวน อินดัสเทรียล ถูกกล่าวหาว่าขายรถยนต์ เครื่องจักรกล อุปกรณ์ส่งสัญญาณวิทยุและอุปกรณ์สำหรับใช้กับเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ให้กับเกาหลีเหนือ นอกจากนี้มีบริษัทการค้าของจีนรวม 13 แห่งและบริษัทเดินเรือ 20 แห่งที่ถูกกล่าวหาว่าทำธุรกิจกับเกาหลีเหนือ
+++นายกรัฐมนตรีซาอัด ฮาริรี แห่งเลบานอนแถลงในกรุงเบรุต ขอระงับใบลาออกไว้ชั่วคราว กว่า 2 สัปดาห์ก่อน หลังสร้างความประหลาดใจให้กับสาธารณชนในเลบานอน โดยการแถลงในช่วงการเยือนซาอุดิอาระเบียเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนว่าขอลาออก ระบุว่าชีวิตของเขาอาจจะอยู่ในอันตราย หากเดินทางกลับเลบานอน แต่นายฮาริรี ให้เหตุผลในการระงับใบลาออกในครั้งนี้ว่า เขาน้อมรับคำแนะนำของประธานาธิบดีมิเชล อูน ของเลบานอน ที่ขอร้องให้เขายับยั้งเรื่องการลาออก เพื่อจะได้ร่วมกันปรึกษาหารือทิศทางการบริหารประเทศให้มีความมั่นคงต่อไป
+++นายเอ็มเมอร์สัน มนางกากวา อดีตรองประธานาธิบดีซิมบับเว วัย 75 ปี จะเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันศุกร์นี้ภายหลังจากที่นายโรเบิร์ต มูกาเบ ที่ปกครองซิมบับเว มาเป็นเวลา 37 ปี ยอมลาออกจากตำแหน่ง อังกฤษ ซึ่งเป็นอดีตเจ้าอาณานิคมของซัมบับเว กล่าวว่า การลาออกของนายมูกาเบ ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของประเทศ นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ของอังกฤษ กล่าวว่า การที่นายมูกาเบ ลาออกเป็นการเปิดโอกาสให้ซิมบับเวได้ก้าวเดินไปยังเส้นทางใหม่ ขณะที่นายบอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นถือเป็นจุดเปลี่ยน เป็นความหวังใหม่ของซิมบับเว ซึ่งเป็นประเทศที่มีศักยภาพ
+++นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวภายหลังการวิเคราะห์โดยละเอียดและอย่างระมัดระวัง จากข้อเท็จจริงที่มีอยู่ เป็นที่แน่ชัดว่าสถานการณ์ในรัฐยะไข่ ของเมียนมา เท่ากับเป็นการล้างเผ่าพันธุ์ต่อชาวโรฮิงญา การกระทำผิดของคนบางส่วนในกองทัพเมียนมา หน่วยความมั่นคง และอาสาสมัครท้องถิ่น สร้างความทุกข์เดือดร้อนมหาศาล และทำให้ประชาชนทั้งผู้ชาย ผู้หญิงและเด็กหลายแสนคน ต้องหนีออกจากบ้านเรือน เพื่อแสวงหาที่ลี้ภัยในบังกลาเทศ
+++รัฐบาลสหรัฐฯ สนับสนุนการสอบสวนอิสระ เพื่อหาข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้นในรัฐยะไข่ และจะดำเนินการต่อไปโดยผ่านกฎหมายของสหรัฐฯ ซึ่งอาจจะรวมถึงการออกมาตรการคว่ำบาตรแบบจำเพาะเจาะจง ผู้ที่อยู่เบื้องหลังความรุนแรงเหล่านี้จะต้องรับผิดชอบ
+++ศาลอาชญากรสงครามของยูเอ็น มีคำพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต พล.อ.รัตโก มลาดิช อดีตผู้บัญชาการทหารกองกำลังชาวเซิร์บในบอสเนีย วัย 74 ปี ในความผิดฐานฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ จากการบงการสังหารหมู่และล้างเผ่าพันธุ์ ในช่วงสงครามบอสเนีย พล.อ.รัตโก ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยลากดึงตัวออกไปจากห้องพิจารณา เพียงไม่กี่นาทีก่อนที่ศาลจะอ่านคำพิพากษา หลังร้องตะโกนโวยวาย กล่าวหาอัยการและผู้พิพากษาสร้างหลักฐานเท็จปรักปรำ
+++องค์คณะตุลาการศาลอาชญากรสงครามสำหรับอดีตยูโกสลาเวีย (ไอซีทีวาย) ของสหประชาชาติ ในกรุงเฮก มีคำตัดสินว่า พล.อ.มลาดิช มีความผิด 10 ใน 11 ข้อหาที่ถูกฟ้องต่อศาล รวมถึง การสังหารหมู่ผู้ชายและเด็กชายชาวมุสลิม ราว 8,000 คน ในเมืองเซเบรนิกา และในช่วงยึดเมืองซาราเยโว เมืองหลวงของบอสเนีย ซึ่งพลเรือนกว่า 11,000 คนเสียชีวิต จากกระสุนปืนใหญ่ยิงถล่ม และมือปืนลอบยิง ในระยะเวลา 43 เดือน
CR:AP