ชาวซิมบับเว ดีใจปธน.ลาออก/หุ้นสหรัฐฯขานรับทรัมป์พิจารณาปรับลดภาษีเป็นของขวัญคริสต์มาส

+++ประชาชนในซิมบับเว ออกมาแสดงความดีใจกันตามท้องถนน หลังจากที่ประธานาธิบดีโรเบิร์ต มูกาเบ วัย 93 ปี ลาออกจาก หลังรัฐสภาเริ่มการประชุมเพื่อเข้าสู่กระบวนการถอดถอนนายมูกาเบออกจากตำแหน่งตามความผิดในข้อหาร้ายแรง เพราะเป็นวิธีการเดียวในทางกฎหมายที่จะสามารถถอดถอนประธานาธิบดีมูกาเบออกจากตำแหน่งได้ กระบวนการพิจารณาถอดถอนออกจากตำแหน่งเป็นอันยุติ นายมูกาเบ ขึ้นเป็นผู้นำประเทศซิมบับเว นับตั้งแต่ได้เอกราชเมื่อปี 2523

+++ก่อนหน้านี้พรรครัฐบาลซานู-พีเอฟ มีมติปลดนายมูกาเบ ออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคและคาดหมายกันว่า นายเอ็มเมอร์สัน มนางกากวา จะขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ซึ่งทั้งกองทัพและนายมนางกากวา ไม่เห็นด้วยกับนางเกรซ มูกาเบ วัย 52 ปี ภริยาของประธานาธิบดีมูกาเบ ซึ่งประกาศตัวว่าจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากประธานาธิบดีมูกาเบ

+++ก่อนหน้านี้ นายมูกาเบ ไม่ยอมลาออก จนทำให้ต้องเข้าสู่กระบวนการถอดถอน แต่ในที่สุดเขาก็ได้ทำหนังสือถึงประธานรัฐสภา ประกาศยอมลาออกจากตำแหน่ง อ้างว่า สมัครใจลาออกเองและต้องการให้การถ่ายโอนอำนาจเป็นไปอย่างเรียบร้อย แต่ไม่ได้ระบุว่าใครจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่ง ซึ่งเรื่องนี้ประธานรัฐสภา กล่าวว่า กำลังพิจารณาในเรื่องกฎหมาย เพื่อให้แน่ใจว่าซิมบับเวจะต้องมีผู้นำคนใหม่ให้ได้ภายในวันพุธที่ 22 พ.ย.นี้ ต่อมา เลขาธิการพรรคซานู-พีเอฟแถลงว่า นายมนางกากวา จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของซิมบับเวในวันพุธหรือไม่ก็พฤหัสบดีที่ 23 พ.ย.นี้

+++โฆษกหน่วยดูแลชายฝั่งของญี่ปุ่น รายงานว่า อยู่ระหว่างการค้นหาชาวประมง 7 คนที่สูญหายคือชาวญี่ปุ่น 2 คนและชาวอินโดนีเซีย 5 คน หลังเรือประมงลำหนึ่งของญี่ปุ่นอับปางกลางทะเลบริเวณนอกชายฝั่งของเกาะปาเลา บริเวณตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิค เนื่องจากทะเลมีคลื่นสูง หน่วยดูแลชายฝั่งของญี่ปุ่นส่งเครื่องบินลำหนึ่งไปยังจุดเกิดเหตุแล้ว และเรือลาดตระเวนอีกลำหนึ่งอยู่ระหว่างการมุ่งหน้าไปยังจุดเกิดเหตุเช่นกัน หลังลูกเรือได้ส่งสัญญาณแจ้งขอความช่วยเหลือฉุกเฉินไปถึงหน่วยดูแลชายฝั่ง

+++ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ เอเชีย -ยุโรป หรือ อาเซม  ที่กรุงเนปิดอว์ ที่เมียนมา มีการหารือถึงสถานการณ์ในรัฐยะไข่ เมียนมา  นายดอน ปรมัติวินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยระหว่างร่วมประชุมกลุ่มย่อยรัฐมนตรีเอเชีย-ยุโรป ร่วมกับนางอองซานซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ และรัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา  นางซูจี แจ้งว่า ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษา โดยเชิญผู้ทรงคุณวุฒิจากต่างประเทศ ร่วมด้วย หนึ่งในนั้นคือ นายสุรเกียรติ เสถียรไทย ประธานคณะมนตรีเพื่อสันติภาพและความปรองดองแห่งเอเชีย หรือ เอพีอาร์ซี  โดยเชิญให้นายสุรเกียรติ เป็นประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาชุดดังกล่าว เพื่อพิจารณารายละเอียดข้อเสนอของนายโคฟี อันนัน เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหารัฐยะไข่  เหตุผลที่นางซูจี เลือกนายสุรเกียรติ์เพราะมีความรู้สึกที่ดีกับไทย นายสุรเกียรติ์ มีประสบการณ์เคยดูแลผู้พลัดถิ่นเมียนมา รวมถึงมีประสบการณ์การส่งกลับผู้พลัดถิ่น  รวมถึงไทยยังมีแรงงานเมียนมา จำนวนมากอยู่ในประเทศช่วยให้มีความเข้าใจเกี่ยวกับชาวเมียนมาด้วย 

+++ไปที่ไนจีเรีย เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในเมืองมูบิ รัฐอาดามาวา ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ มีคนเสียชีวิต 50 ศพและมีคนบาดเจ็บหลายคน คนร้ายคนหนึ่ง กดชนวนระเบิด ขณะอยู่ในมัสยิดแห่งหนึ่งในเมืองมูบิ ระหว่างการทำพิธีละหมาด นายอาบูบาการ์ ซูเล ผู้เห็นเหตุการณ์บอกกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า มือระเบิดแฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ร่วมทำพิธีทางศาสนา ยังไม่มีกลุ่มใดอ้างความรับผิดชอบ

+++รอยเตอร์ รายงานอ้างเอกสารภายในของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯว่าข้าราชการหลายสิบคนในกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯส่งบันทึกลับฉบับหนึ่ง กล่าวหานายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯว่า ทำผิดกฏหมายของรัฐบาลสหรัฐฯที่มุ่งจะป้องปรามไม่ให้กองทัพต่างชาติเกณฑ์เด็กเข้าไปเป็นทหาร บันทึกความทรงจำเรื่องนี้ถือว่าเป็นความลับและไม่เคยเปิดเผยให้สาธารณชนทราบมาก่อน

+++ความเคลื่อนไหวสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด เดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 41 เซนต์ ปิดที่ 56.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 35 เซนต์ ปิดที่ 62.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ  พุ่งแรง ตามแรงหนุนของกลุ่มเทคโนโลยี แต่การซื้อขายเป็นไปอย่างเบาบาง ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 160.50 จุด ปิดที่ 23,590.83 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 16.89 จุด ปิดที่ 2,599.03 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 71.76 จุด ปิดที่ 6,862.48 จุด บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง แอปเปิ้ล, อะเมซอน, เฟซบุ๊กและอัลฟาเบ็ท บริษัทแม่ของกูเกิล ปิดบวกมากกว่าร้อยละ 1 เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มประกันสุขภาพที่ขยับขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขณะเดียวกันนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับความล่าช้าของการผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีในสภาคองเกรส หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า จะพิจารณาเรื่องการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ เป็นของขวัญสำหรับชาวอเมริกันในวันคริสต์มาสปีนี้

+++ราคาทองคำ  ฟื้นตัวหลังจากดิ่งลงหนักหนึ่งวันก่อนหน้านี้ จากการอ่อนค่าของดอลลาร์ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 6.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,281.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แฟ้มภาพ