แพทย์ชันสูตรศพนร.เตรียมทหาร รับนำอวัยวะเก็บไว้ เพื่อพิสูจน์เหตุการเสียชีวิต

21 พฤศจิกายน 2560, 18:36น.


หลังพ่อแม่ของนายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ติดใจการเสียชีวิตของบุตรชา โดยไม่ได้รับคำชี้แจงจากผู้เกี่ยวข้อง ได้รับเพียงใบมรณบัตรชี้แจงสาเหตุการเสียชีวิต จากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน จากนั้นครอบครัวจึงได้นำศพนายภคพงศ์ ไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตพบว่ากระดูกซี่โครงหัก 4 ซี่ มีรอยช้ำภายในช่องท้องด้านขวา และด้านหลังซีกซ้าย ไหปลาร้าหักทั้ง 2 ข้าง ซึ่งแพทย์ระบุว่า สาเหตุซี่โครงหักไม่น่าเกิดจากการปั๊มหัวใจ โดยรอยช้ำน่าจะเกิดจากการถูกกระแทกอย่างแรง อวัยวะภายในทั้งตับ ไต ไส้ พุง หายไป ส่วนสมองหายไป ที่ศีรษะมีกระดาษทิชชูยัดไว้



ล่าสุด พล.ท.ณตฐพล  บุญงาม โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย พล.ต.กนกพงษ์  จันทร์นวล  ผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหาร พันเอกการุณย์  สุริยวงศ์พงศา ผู้อำนวยการกองแพทย์โรงเรียนเตรียมทหาร และพันโทนรุฏฐ์  ทองสอน (แพทย์ผู้ชันสูตรศพ) สถาบันพยาธิวิทยา ศูนย์อำนวยการแพทย์พระมงกุฏเกล้า กรมแพทย์ทหารบก ได้เปิดแถลงข่าว พร้อม แสดงความรู้สึกเสียใจอย่างมากต่อการสูญเสียอนาคตของกองทัพ พร้อมทั้งระบุว่า นตท.ภคพงศ์ ตั้งแต่บรรจุเข้าเรียนในโรงเรียนเตรียมทหาร เข้าเรียนหนังสือ รวมทั้งร่วมกิจกรรมทางการทหารตามปกติมาโดยตลอด มีสภาพร่างกายที่แข็งแรง มีเข้ารักษาที่กองแพทย์ โรงเรียนเตรียมทหารเป็นครั้งคราว



จนเช้าวันที่ 16ตุลาคม 2560 เวลาประมาณ 07.00น. ขณะทำกิจกรรมทางการทหารตามปกติ นตท. ภคพงศ์ มีอาการเป็นลม และถูกรักษาตัวที่กองแพทย์ฯ จนร่างกายเป็นปกติ จนช่วงเช้าวันที่ 17 ตุลาคม 2560 นตท.ภคพงศ์ เป็นลมระหว่างทางเดินใกล้กองแพทย์ จึงกลับมารักษาที่กองแพทย์ฯ ต่ออีกจนอาการดีขึ้น และสามารถเดินเองได้ ในช่วงบ่าย นตท.ภคพงศ์ ได้ใช้โทรศัพท์สาธารณะที่กองแพทย์ ก่อนมีอาการเครียดและหมดสติ แพทย์จึงเข้าดูอาการ เห็นว่าไม่ดีจึงนำส่งโรงพยาบาลโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จ.นครนายก และได้ติดต่อทางครอบครัวทันที จนได้เสียชีวิตในเวลาประมาณ 20.24นาฬิกา



จากนั้น ได้นำร่างของ นตท.ภคพงศ์ ส่งตรวจที่สถาบันพยาธิวิทยา ศูนย์อำนวยการแพทย์พระมงกุฎเกล้า กรมแพทย์ทหารบก ตามขั้นตอนมาตรฐานทางการแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิตตามกรรมวิธี ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1-2สัปดาห์ ผลการตรวจระบุว่า นตท.ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ เสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน สำหรับการตรวจอวัยวะ เป็นการผ่าแบบนิติเวช สำหรับศพที่ไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตแน่ชัด และเป็นคดีที่ต้องตรวจอย่างละเอียดด้วยกล้องจุลทรรศน์  ทำให้จำเป็นต้องนำส่วนที่สำคัญคือสมอง หัวใจ และกระเพาะอาหารตัดเก็บเพื่อมาตรวจเป็นส่วนสุดท้าย เพื่อหาเศษอาหาร หรือสารพิษ แต่เมื่อตรวจสอบแล้วก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ รวมทั้งต้องมีการสุ่มตรวจอวัยวะอื่นด้วย คือ ตับ ไต พร้อมย้ำว่าการตรวจทั้งหมดเป็นไปตามมาตรฐานทางการแพทย์ทั่วไป 



พ.ท.นรุฏฐ์ กล่าวต่อว่า สาเหตุของหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน หากดูจากกายภาพและนำมาชั่งน้ำหนักวัดขนาดของหัวใจแล้วค่อนข้างจะเป็นคนที่มีลักษณะปกติดี แต่จากการตรวจสอบด้วยกล้องจุลทรรศน์แล้วพบว่าเซลล์บางตัวคนปกติอายุ 19 ปีไม่ควรจะพบ อย่างไรก็ตาม ทางแพทย์ได้ประสานกับทางพี่สาวไว้ว่าได้ทำการเก็บเอาอวัยวะแล้วพร้อมคืน ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอนและแนะนำให้ประสานกับทางพนักงานสอบสวนเพื่อขอรับคืนโดยทางแพทย์ก็พร้อมที่จะคืนให้ แต่ที่ผ่านมายังไม่มีพนักงานสอบสวนติดต่อมาที่แพทย์จนกระทั่งเวลา12.00 น. ของวันนี้ (21 พ.ย.) พนักงานสอบสวนได้โทรศัพท์มาหาแพทย์เพื่อนัดวันติดต่อรับอวัยวะคืน ทางแพทย์ยืนยันว่าเราทำตามกฏหมาย          



 



ผสข.วริศรา ชาญบัณฑิตนันท์

ข่าวทั้งหมด

X