กรณี นายพิพัฒน์ ลาภปรารถนา ประธานสภากรุงเทพมหานคร และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตบางรัก และนายประเสริฐ พรมมิ เลขานุการมูลนิธิประชาอุปถัมภ์บางรักถูกกล่าวหาว่าเรียกรับเงินค่าคุ้มครองจากผู้ค้าบริเวณหน้าวัดหัวลำโพง แขวงสี่พระยา เขตบางรัก พ.ท.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ พล.ม.2 รอ.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. ได้เบิกตัวนายพิพัฒน์ ลาภปรารถนา ส.ก.บางรัก ออกมาจากห้องขัง บก.ป. มารับฟังข้อกล่าวหาที่ห้องพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. โดยมี พ.ต.ท.นทธีฤทธิ์ หาญเสน่ห์ลักษณ์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ กก.1 บก.ป. เจ้าของคดี เป็นผู้แจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งนายเธียรชัย ลาภปรารถนา ทนายความและฐานะพี่ชายของนายพิพัฒน์ เดินทางมาร่วมรับฟังการแจ้งข้อกล่าวหาครั้งนี้ด้วย
เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาแก่นายพิพัฒน์ ทั้งหมด 4 ข้อหา คือ ร่วมกันกรรโชกทรัพย์, ความผิดต่อเสรีภาพ, เป็นอั้งยี่ และเป็นตัวกลางเรียกรับเงิน ด้านนายพิพัฒน์ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เนื่องจากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีที่เกิดขึ้นทั้งหมด และยืนยันว่ารู้จักกับนายประเสริฐ จริง แต่ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเรียกเก็บเงินค่าคุ้มครองจากกลุ่มผู้ค้าที่หน้าวัดหัวลำโพงแต่อย่างใด ทั้งนี้ตนเป็น ส.ก.เขตบางรัก มา 4 สมัย รวมเวลา 16 ปี หากกระทำแบบนั้นประชาชนคงไม่เลือกเข้ามาให้ทำงานรับใช้ ซึ่งประชาชนในเขตท้องที่บางรักทราบดีว่าตนเป็นคนเช่นใด
ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า หลังจากที่ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาแล้วนั้น ก็จะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด และนำตัวนายพิพัฒน์พร้อมกับนายประเสริฐไปส่งศาลอาญากรุงเทพใต้ในช่วงบ่าย ซึ่งทางผู้ถูกกล่าวหาจะให้การอย่างไรในชั้นศาลก็เป็นสิทธิของผู้ที่ถูกกล่าวหาส่วนเรื่องการให้ประกันตัวนั้นก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่อย่างไร