หลังชาวอุยกูร์ใช้โลหะมีคม เจาะรูผนังห้องกักกันตัวสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจ.สงขลา โดยมีขนาดความกว้างประมาณ 1 ฟุต ก่อนจะหลบหนีไปได้20คน จาก25 คน
พลตำรวจโทสุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว และตั้งคณะกรรมการสืบสวนผู้กำกับการและรองผู้กำกับการรวมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องรวม5คน รวมถึงกำลังสอบสวนหาเบาะแสเส้นทางหลบหนี โดยเบื้องต้นทราบว่าหนีไปทางป่าละเมาะออกไปทางชายแดนประเทศเพื่อนบ้านแล้ว
ส่วนสถานที่ที่ชาวอัยกูร์หลบหนีไปได้นั้น เป็นห้องกักกันตัวเพื่อรอส่งกลับไม่ใช่ห้องควบคุมตัวผู้ต้องหา ประกอบกับรอบๆเป็นป่าละเมาะ ชาวอุยกูร์จึงหลบหนีในช่วงที่ฝนตก ส่วนตัวมองว่า หลบหนีในช่วงเวลาดังกล่าว เพราะ ง่าย ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ไม่สังเกตเห็น อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบยังพบมีชาวอุยกูร์อีก 61 คน ถูกกักกันอยู่ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อเตรียมพิสูจน์สัญชาติและส่งตัวกลับประเทศ จึงสั่งการเพิ่มมาตรการป้องกัน ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย
มีรายงานข่าวว่า กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง6 เตรียมสั่งย้ายพันตำรวจเอกสังคม ตัดโส ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง6แล้ว
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เผยว่า มีคำสั่งให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีชาวอุยกูร์ จำนวน 20 คน แหกห้องขัง ตม.สะเดา จ.สงขลา หลบหนี เบื้องต้นมองเป็นความบกพร่องของ ตม.สะเดา ระดับปฏิบัติหน้าที่หละหลวม ปล่อยให้ผู้ต้องขังทั้ง 20 คน ใช้อุปกรณ์ในห้องน้ำเจาะฝาผนังห้องขังหลบหนีไป
สำหรับ ชาวอุยกูร์ทั้ง 20 คน ถูกควบคุมตัวตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง เนื่องจากมีพฤติการณ์เกี่ยวกับความมั่นคง จึงกักตัวไว้เพื่อรอการพิจารณาส่งตัวกลับ