หลังนักร้องชื่อดัง “บี พีระพัฒน์ เถรว่อง” ออกมาประกาศตามหาตัว นายศุภวัฒน์ ทรัพย์อัมพร หรือกู๊ด อายุ 31 ปี อดีตผู้จัดการส่วนตัวที่ก่อเหตุยักยอกทรัพย์เป็นจำนวนเงินร่วม 1 ล้านบาท ต่อมาตำรวจ สน.ทองหล่อได้นำตัว นายศุภวัฒน์ หรือกู๊ด อดีตผู้จัดการส่วนตัวบี มายื่นคำร้องผัดฟ้องฝากขัง หลังจากที่เจอตัวที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะทำสำนวน สอบปากคำ เพื่อพร้อมส่งฟ้องศาล
จากนั้น พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องด้วยวาจา นายศุภวัฒน์ ทรัพย์อัมพร จำเลย ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 29 กันยายน 2560 เวลากลางวันถึงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2560 วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด ผู้จัดหางานได้ว่าจ้างให้ผู้เสียหายไปแสดงดนตรีในพื้นที่ต่างๆ เช่น จังหวัดสงขลา อ.หาดใหญ่ กรุงเทพมหานคร ผู้เสียหายได้ไปแสดงตามปกติ โดยจำเลยได้รับเงินค่าจ้างจากการแสดงของลูกค้าของผู้เสียหายเป็นเงินทั้งสิ้น 938,800 บาท มาไว้ในความครอบครองของจำเลย แล้วจำเลยมีหน้าที่นำเงินของผู้เสียหายที่จำเลยรับไว้ในความครอบครองดังกล่าวส่งมอบให้แก่ผู้เสียหายตามหน้าที่ แต่จำเลยกลับไม่นำส่งมอบให้ผู้เสียหายตามหน้าที่ และในวันเวลาดังกล่าวจำเลยได้บังอาจเบียดบังเอาเงินดังกล่าวของผู้เสียหายไปใช้ประโยชน์ของตนโดยทุจริต อันเป็นการกระทำความผิด ฐานยักยอกทรัพย์ เหตุเกิดที่แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร
หลังเกิดเหตุจำเลยเข้าพบพนักงานสอบสวนพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาให้จำเลยทราบชั้นสอบสวน จำเลยให้การรับสารภาพ จำเลยถูกคุมตัวตลอดมาได้ส่งตัวจำเลยมาศาลฟ้องนี้แล้ว ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาฉบับที่ 26 พ.ศ.2560 มาตรา 4 และขอให้จำเลยคืนเงินให้หรือใช้เงินเป็นจำนวน 938,800 บาท แก่ผู้เสียหาย
ศาลพิพากษาว่า จำเลยทำผิดตามฟ้อง มาตรา 352 ให้จำคุก 2 ปี รับสารภาพลดกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา และให้จำเลยชดใช้เงิน 938,800 บาท.
ด้าน บี พีระพัฒน์ เปิดเผยว่า ขณะที่อยู่ในห้องพิจารณาด้วยกันนายศุภวัฒน์ ไม่ได้กล่าวขอโทษและพูดอะไรกับตน แต่เขาก็มีสีหน้าสลดเหมือนกันขณะที่ญาติ ของนายศุภวัฒน์ก็ได้พูดคุยเรื่องเงินที่ต้องชดใช้เช่นกัน แต่ยังไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการชำระ ส่วนถ้าญาติชดใช้เงินชดใช้ครบแล้ว ในทางคดีตนจะถอนแจ้งความหรือยอมความในความผิดฐานยักยอกทรัพย์หรือไม่ในกรณีที่จำเลยยื่นอุทธรณ์ ยังไม่แน่ใจข้อกฎหมาย ส่วนตัวตนพอใจคำพิพากษาและไม่ได้ยื่นอุทธรณ์คดี ส่วนเงินที่เสียไปจะได้คืนครบหรือไม่ยังตอบอะไรไม่ได้ ก็ต้องรอพูดคุยในเรื่องนี้