สถาบันการเงินทั่วโลก วิตกต่อร่างกฎหมายภาษีสหรัฐฯฉบับใหม่

สถาบันการเงินทั่วโลก กำลังวิตกกังวลอย่างมากเกี่ยวกับเงื่อนไขในร่างกฎหมายภาษีของสหรัฐฯ ฉบับใหม่ที่มุ่งขจัดปัญหาการหลบเลี่ยงภาษีด้วยการดึงความร่วมมือในระดับนานาชาติ เพราะคาดว่าอาจจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการเงิน หลังจากก่อนหน้านี้บรรดาสถาบันการเงิน เคยมองว่าเป็นความพยายามของพรรครีพับลิกันในการปฏิรูประบบภาษีของสหรัฐฯ จึงได้ให้การสนับสนุน แต่ล่าสุด กลุ่มความร่วมมือของสถาบันการเงิน ได้แก่ สมาพันธ์ตราสารอนุพันธ์และการซื้อขายเงินตราต่างประเทศระหว่างประเทศ และสมาพันธ์หลักทรัพย์และตลาดเงิน ซึ่งมีสถาบันการเงินชั้นนำของโลก ทั้งโกลด์แมน แซคส์ มอร์แกน สแตนลีย์ ซิตี้ กรุ๊ป และเจพี มอร์แกน ได้ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการการเงินประจำวุฒิสภาสหรัฐฯ ระบุว่า ข้อกำหนดบางประการในร่างกฎหมายภาษีฉบับใหม่ ซึ่งทำให้การบริหารจัดการความเสี่ยงมีต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้น จนอาจทำลายตลาดเงินได้ แม้ว่าข้อกำหนดดังกล่าวจะมีเจตนาในการอุดช่องว่างในการหลบเลี่ยงภาษีของกลุ่มพนักงานบริษัทที่มีบริษัทย่อยในต่างประเทศและเคยใช้วิธีการโอนเงินรายได้ไปยังบริษัทลูกในต่างประเทศที่ต้องเสียภาษีน้อยกว่าแทนการรับเงินรายได้โดยตรงจากบริษัทในสหรัฐฯ ซึ่งทำให้เสียภาษีในอัตราที่สูงกว่ามาก ทำให้ต้องมีการกำหนดเงื่อนไขไว้ในร่างกฎหมายฉบับใหม่ว่า บริษัทสหรัฐฯ ที่มีความเกี่ยวข้องทางการเงินกับบริษัทต่างชาติจะต้องคิดอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่ายแก่พนักงานสูงสุดถึงร้อยละ 10 ของอัตราเงินเดือน รวมทั้งกำหนดบทลงโทษสถาบันการเงินที่สนับสนุนการโอนเงิน ซึ่งเอื้อต่อการหลบเลี่ยงภาษีด้วยวิธีการดังกล่าว

นอกจากนั้นยังเพิ่มระเบียบและขั้นตอนแก่สถาบันการเงินในการกำกับดูแลการโอนเงิน ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการการเงินประจำวุฒิสภาสหรัฐฯ มีกำหนดจะพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวในวันพฤหัสนี้ เพื่อที่จะนำเสนอให้วุฒิสภาลงมติต่อไป 

ทีมต่างประเทศ

CR:Reuters