ทูตจีนเยือนเกาหลีเหนือรื้อฟื้นความสัมพันธ์/เมียนมา แจงโรฮิงญากลับประเทศได้เมื่อชาวยะไข่ยินยอม/กลุ่มโบโกฮาราม ก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่ไนจีเรีย

17 พฤศจิกายน 2560, 05:11น.


 +++วันนี้ติดตามการเดินทางเยือนเกาหลีเหนือ ของนายซ่ง เทา หัวหน้าฝ่ายวิเทศสัมพันธ์กลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ในฐานะทูตพิเศษของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ท่ามกลางกระแสกดดันที่เพิ่มขึ้นเพื่อให้เกาหลีเหนือยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธ นับเป็นการเยือนเกาหลีเหนือของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนเป็นครั้งแรกในรอบปีนี้ ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯเสร็จสิ้นการเยือนเอเชีย 13 วัน โดยผู้นำสหรัฐฯเสนอให้รัฐบาลจีนดำเนินมาตรการด้านการทูตกับเกาหลีเหนือให้มากยิ่งขึ้น



+++รศ.จอห์น เดลูรี จากบัณฑิตวิทยาลัยการระหว่างประเทศศึกษา มหาวิทยาลัยยอนเซของเกาหลีใต้ เตือนไม่ให้ทุกฝ่ายคาดว่า ปัญหาวิกฤติเรื่องโครงการนิวเคลียร์เกาหลีเหนือจะคลี่คลายลงในอนาคตอันใกล้ ตั้งข้อสังเกตว่าการเยือนเกาหลีเหนือครั้งนี้อาจจะเป็นเพียงการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น



+++รอยเตอร์ รายงานอ้างบันทึกย่อที่นายเฟาเซียห์ เอ ซานี หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์ด้านการค้าและความมั่นคง กรมศุลกากรสิงคโปร์ ส่งไปถึงบรรดาพ่อค้าและตัวแทนเมื่อวันอังคารที่แล้วและรอยเตอร์ได้รับในวันนี้แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลสิงคโปร์สั่งระงับสัมพันธ์ทางการค้ากับเกาหลีเหนือทั้งหมดในช่วงนี้ ทั้งการส่งออกสินค้าไปหรือการนำเข้าสินค้าจากเกาหลีเหนือ นับเป็นกรณีล่าสุดที่หนึ่งในหุ้นส่วนทางการค้ารายใหญ่อันดับ7 ของเกาหลีเหนือประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการค้า



+++ผู้ฝ่าฝืนจะมีโทษคือถูกปรับ 2 แสนดอลลาร์สิงคโปร์หรือถูกปรับในอัตราที่สูงกว่ามูลค่าสินค้า 4 เท่า และมีโทษจำคุกมากถึง 3 ปีหรือทั้งจำคุกทั้งปรับ มาตรการนี้เริ่มมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันพุธที่แล้ว เป็นไปตามมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็นเอสซี)ที่มุ่งจะลงโทษเกาหลีเหนือให้หนักยิ่งขึ้น หลังการฝ่าฝืนมติของยูเอ็นเอสซี ด้วยการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เมื่อต้นเดือนกันยายนและทดลองขีปนาวุธมาหลายครั้งในปีนี้



+++ก่อนหน้านี้  ฟิลิปปินส์ หุ้นส่วนรายใหญ่อันดับที่ 5 ประกาศระงับสัมพันธ์ทางการค้ากับเกาหลีเหนือเมื่อเดือนกันยายน ตามมติของยูเอ็น



+++การเมืองในกัมพูชา น่าจับตามอง  โดยเฉพาะการเลือกตั้งในปีนี้ หลังจากที่ศาลฏีกาของกัมพูชา มีคำตัดสินยุบพรรคซีเอ็นอาร์พีพรรคฝ่ายค้าน พร้อมทั้งตัดสิทธิ์การลงเลือกตั้งทางการเมืองของสมาชิกกว่า 100 คนของพรรคเป็นเวลา 5 ปี ส่งผลให้พรรคประชาชนกัมพูชาของสมเด็จฮุนเซน ไร้คู่แข่งสำคัญก่อนการเลือกตั้งในปีหน้า ศาล ระบุว่าการที่พรรคซีเอ็นอาร์พี ไม่ส่งทนายความไปแก้ต่างในคดีนี้มีผลเท่ากับรับสารภาพโดยปริยายว่าทำความผิดจริงตามข้อกล่าวหาของพรรครัฐบาล ก่อนหน้านี้พรรคซีเอ็นอาร์พี สามารถกวาดที่นั่งส.ส.ได้จำนวนมากในการเลือกตั้งเมื่อปี 2556 และคาดว่าการแข่งขันทางการเมืองจะดำเนินไปอย่างดุเดือดมากขึ้นในการเลือกตั้งปีหน้า



+++สถานการณ์ชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ พล.อ.อาวุโสมิน อ่องหล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา ย้ำว่า ผู้ลี้ภัยชาวมุสลิมโรฮิงญายังไม่สามารถเดินทางกลับรัฐยะไข่ได้จนกว่าชาวพุทธในรัฐยะไข่ซึ่งเป็นพลเมืองเมียนมาจริง ๆ จะยินยอม 



พล.อ.อาวุโสมิน เขียนในหน้าเฟซบุ๊ก เป็นข้อความภาษาอังกฤษว่า จะต้องให้ความสำคัญกับความปรารถนาของชาวรัฐยะไข่ท้องถิ่นที่เป็นพลเมืองเมียนมาจริง ๆ ก่อน ต่อเมื่อชาวยะไข่ ยินยอมทุกคนจึงจะพอใจได้ และเมียนมาไม่สามารถปล่อยให้ชาวโรฮิงญาในบังกลาเทศเดินทางกลับมาได้หมดทุกคน เพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะรับกลับตามจำนวนที่บังกลาเทศเสนอ 



+++ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมา โพสต์ข้อความดังกล่าว หลังจากพบกับนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯที่มาเยือนเมื่อวันก่อน นายทิลเลอร์สัน ขอให้กองทัพเมียนมาสนับสนุนการรับกลับผู้ลี้ภัยทุกคน และกล่าวถึงรายงานเรื่องทหารเมียนมากระทำการโหดร้ายว่าเป็นเรื่องที่มีมูล



+++เมียนมาและบังกลาเทศ ตกลงในหลักการเรื่องเริ่มส่งกลับชาวโรฮิงญา แต่ยังตกลงในรายละเอียดไม่ได้ เช่น จำนวนชาวโรฮิงญาที่เมียนมาจะรับกลับ สถานที่ที่จะให้พวกเขาอาศัยอยู่เพราะบ้านเรือนถูกเผาราบ มาตรการให้ชาวมุสลิมโรฮิงญาอยู่ร่วมกับชาวพุทธยะไข่อย่างสงบสุข ทั้งสองชุมชนระหองระแหงกันมานาน และปะทุ กลายเป็นเหตุรุนแรงเมื่อปี 2555



+++ไปที่ประเทศไนจีเรีย นายเบลโล ดัมบัตตา หัวหน้าสำนักงานตอบสนองเหตุฉุกเฉินรัฐบอร์โน เปิดเผยว่า เกิดเหตุมือระเบิดฆ่าตัวตาย 4 คน เป็นชาย 2 คน และหญิง 2 คน บุกโจมตีเป้าหมายในย่านมูนา การี แถบชานเมืองไมดูกูรี เมืองเอกของรัฐบอร์โน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 ศพ รวมถึงมือระเบิดทั้ง 4 คน เชื่อว่าเป็นสมาชิกกลุ่มโบโกฮาราม และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 29 คน  มีรายงานว่า มือระเบิดคนแรกดึงชนวนระเบิดสายคาด ท่ามกลางประชาชนที่กำลังประกอบพิธีทางศาสนา มีผู้เสียชีวิตที่จุดนี้อย่างน้อย 12 ศพ และมือระเบิดคนที่ 2 บุกเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง ดึงชนวนระเบิดสายคาด สังหารหญิงตั้งครรภ์ ส่วนมือระเบิดอีก 2 คนดึงชนวนระเบิดฆ่าตัวตาย ก่อนถึงเป้าหมาย



+++กลุ่มก่อการร้ายโบโกฮาราม มีฐานอยู่ในรัฐบอร์โน จับอาวุธต่อสู้กับรัฐบาลไนจีเรียตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 การต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20,000 คน และประชาชนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กลายเป็นผู้พลัดถิ่นกว่า 2.6 ล้านคน



แฟ้มภาพ Reuters



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X