*เมืองไทยวันนี้ 8.30 น.*

วันนี้ พนักงานสอบสวน กองปราบปรามจะทำหนังสือร้องทุกข์เพื่อแจ้งข้อกล่าวหานายพิพัฒน์ ลาภปรารถนา สก.เขตบางรัก ในฐานะประธานสภากรุงเทพมหานคร และนายประเสริฐ พรมมิ เลขานุการมูลนิธิประชาอุปถัมภ์บางรัก ก่อนจะขออำนาจศาลฝากขังในวันเดียวกัน ในข้อหาเรียกรับเงินค่าคุ้มครองจากผู้ค้าบริเวณหน้าวัดหัวลำโพง

            ส่วนเรื่องอุ้มบุญ ซึ่ง น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข นำ เจ้าหน้าที่กองประกอบโรคศิลปะ สบส. ตรวจสอบคลินิกเวชกรรมเฉพาะทางสูตินรีเวช ที่ย่านลาดพร้าวเมื่อวานนี้ พบว่ามีการขออนุญาตสถานบริการอย่างถูกต้อง แต่ไม่ได้ขอขึ้นทะเบียนจากราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทยตามเกณฑ์การประกอบวิชาชีพ และแพทย์ที่ให้บริการ จึงให้ยุติการดำเนินการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์เป็นระยะเวลา 60 วัน มีโทษทั้งจำทั้งปรับ ส่วนแพทย์ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับราชวิทยาลัย ก็จะส่งแพทยสภาพิจารณาต่อไป

ส่วนที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ชุดสืบสวนพยายามติดต่อกับ อดีตทนายความของนายมิตสึโตกิ ชิเงตะ ชาวญี่ปุ่นอายุ 24 ปี พ่ออุ้มบุญเด็ก 12 คน และคาดว่า เป็นไปได้ที่นายมิตสึโตกิ อาจจะไม่เข้ามาประเทศไทย แต่จะให้ทนายความดำเนินการทางกฎหมายเพื่อดูแลบุตรที่ยังอยู่ในประเทศไทย และพากลับประเทศญี่ปุ่นต่อไป โดยในวันที่ 20 สิงหาคมนี้ จะมีการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าอีกครั้ง

ส่วนที่สน.ลุมพินี มีการรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายเรียกนายแพทย์ผู้ใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ให้ทารก 9 คนจากน้ำเชื้อของนายมิตสึโตกิ  โดยจะเรียกรับทราบข้อกล่าวหา 2 ข้อหา คือ ผิดพ.ร.บ.สถานพยาบาล ประกอบกิจการและสถานพยาบาลไม่ได้รับอนุญาต กับไม่ควบคุมดูแลให้ผู้ประกอบการวิชาชีพเวชกรรมในสถานบริการ ให้ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพเวชกรรม โดยส่งหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาภายในวันที่ 22 สิงหาคม หากยังไม่มาก็จะออกหมายเรียกครั้งที่ 2 และหากยังไม่มาจะขออนุมัติจากศาลออกหมายจับทันที

ส่วนทนายความรับมอบอำนาจจากนายมิตสึโตกิ เข้าพบตำรวจที่สน.ลาดพร้าว เพื่อมอบหลักฐานและหนังสือชี้แจง เป็นตัวอย่างดีเอ็นเอ ซึ่งได้รับการยืนยันจากหน่วยงานรัฐ และได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดจากทางญี่ปุ่นแล้วว่าเป็นดีเอ็นเอของนายมิตสึโตกิจริง และในวันนี้ที่สน.ลาดพร้าวก็จะมีแถลงความคืบหน้าของเรื่องนี้ด้วย

ส่วนเหตุอาคารคอนโดมิเนียมสูง 6 ชั้นถล่มลงมาในระหว่างการก่อสร้างของบริษัท ปลูกแปลง จำกัด บริเวณถนนเลียบคลอง 6 หมู่ 2 ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 14 ศพและบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง เมื่อวานนี้ นายชลอ เกิดเทศ บิดาของนายชนัยชนม์ เกิดเทศ เจ้าของบริษัทปลูกแปลง  เข้าพบนายพงศธร สัจจชลพันธุ์ ผวจ.ปทุมธานี เพื่อมอบเงินช่วยเหลือปลอบขวัญแก่ผู้ประสบภัย จำนวน 250,000 บาท พร้อมแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนลูกชายขณะนี้ไม่ทราบอยู่ที่ ไหนแต่ทราบว่าจะเดินทางเข้ามอบตัวภายในสัปดาห์นี้

ส่วนที่สภาวิศวกร นายอมร พิมานมาศ รองเลขาธิการสภาวิศวกร เปิดเผยว่าการตรวจสอบเบื้องต้นพบเป็นการก่อสร้างด้วย ระบบพื้นไร้คานชนิดอัดแรงทีหลังหรือพื้นโพสต์ซึ่งมีการเสริมลวดอัดแรงเพื่อเพิ่มกำลังรับน้ำหนักของพื้น และจะเรียกวิศวกรควบคุมงานมาสอบสวน หากพบว่ามีความผิดก็จะถูกลงโทษด้วยการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และต้องดำเนินการตามกฎหมายด้วย

ส่วนเรื่องคนร้ายที่ก่อเหตุลักทรัพย์ในรถไฟ ซึ่งพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ควบคุมตัวนายอุสมาน หรือสมนึก อาดัม อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุลักทรัพย์สินของผู้เสียหายบนโบกี้ขบวนรถไฟสายกรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก ไปขออำนาจศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ฝากขังเป็นครั้งแรกมีกำหนดเวลา 12 วัน ซึ่งจากการตรวจสอบหลักฐานต่าง ๆ พบว่าแท้จริงแล้วมีชื่อว่านายอุสมาน โอมาซาส และตามหนังสือเดินทางมีสัญชาติพม่า ไม่ใช่ชาวปากีสถานตามที่ให้การไว้ก่อนหน้านี้

ส่วนนายอับดุลเลาะ สาหะ ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อเหตุนั้น ยังหลบหนีอยู่ในประเทศไทย 

...