+++การตรวจสอบเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 5.4 เมืองโพฮัง จังหวัดคยองซังเหนือ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจาก สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซลว่า เมื่อเวลา 14.29 น. ตามเวลาท้องถิ่น ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 5.4 ริกเตอร์ ที่เมืองโพฮัง จังหวัดคยองซังเหนือ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ ทั้งนี้ ในช่วงก่อนนั้นเพียงไม่นาน ได้เกิดแผ่นดินไหว 2 ครั้ง ขนาด 2.2 และ 2.6 ริกเตอร์ และได้เกิด aftershock ในช่วงเวลา 14.32 – 15.00 น. อีกประมาณ 5 ครั้ง ขนาดระหว่าง 2.4-3.6 ริกเตอร์ มีผู้บาดเจ็บ 7 คน ในส่วนของคนไทยที่อยู่ในเกาหลีใต้ ยังไม่ได้รับแจ้งว่ามีผู้ใดได้รับผลกระทบ
+++เรื่องของสภาพอากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 1 เตือนเรื่องสภาพอาการแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน และฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 18-21 พ.ย. 2560 ระบุว่า ในช่วงวันเวลาดังกล่าว บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีสภาพอากาศแปรปรวน โดยมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นอากาศจะหนาวเย็นลง อุณหภูมิจะลดลง 2-4องศา กับมีลมแรง ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็นลง
+++สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ2เมตร ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด
+++กรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีหนังสือด่วนถึง บช.น. บช.ก. บช.ภ.1-9 และทุกหน่วยในสังกัด ให้ติดตามพฤติการณ์ของกลุ่มบุคคล หลังมีข้อมูลว่าเตรียมการจะปลุกระดมมวลชนเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รรท.รอง ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก ตร. กล่าวว่า ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงทุกกรณี รวมถึงกรณีกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางที่มีการรวมกลุ่มกัน เนื่องจากขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน เบื้องต้น การข่าวล่าสุดยังปกติ ยังไม่ได้รับรายงานความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับกลุ่มบุคคลที่เตรียมการปลุกระดมมวลชนเพื่อสร้างสถานการณ์
+++กรณีที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม ได้มอบหมายให้พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม เป็นประธานการประชุมสารัตถะการเดินทางไปประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นอกสถานที่ของนายกรัฐมนตรี จ.ปัตตานีและสงขลา ในวันที่ 27-28 พ.ย.แทนนั้น ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตถึงการหายตัวไปของพล.อ.ประวิตร ทั้งนี้จากการสอบถามนายทหารคนสนิทที่มีความใกล้ชิดกับพล.อ.ประวิตรทราบว่าเหตุผลที่พล.อ.ประวิตร มอบหมายให้พล.อ.อุดมเดช เป็นประธานประชุมแทนนั้น เนื่องจากพล.อ.ประวิตรติดภารกิจส่วนตัวที่ต่างประเทศ ซึ่งไม่ทราบจริงๆว่าเป็นภารกิจใด แต่ยืนยันว่าพล.อ.ประวิตร สบายดี ไม่ได้ป่วยอะไร อย่างไรก็ตามพล.อ.ประวิตร ยังคงยืนยันว่าจะเดินทางไปเป็นประธานพิธีเปิดมหกรรมทางเรือนานาชาติ ครบรอบ 50 ปี การก่อตั้งอาเซียน ที่โรงแรมดุสิตธานี พัทยา ในวันที่ 19 พ.ย.นี้
+++พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และโฆษกกระทรวง กล่าวว่า นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวง ได้ตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงกรณีนพ.ยอร์น จิระนคร นายแพทย์สาธารณสุขนิเทศ ขับรถชน นายสมชาย ยามดี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย(รปภ.) ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยได้มอบหมาย นพ.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน ส่วนเรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกระทรวงได้ให้การดูแลผู้บาดเจ็บอย่างดีที่สุด และยินดีให้ความร่วมมือกับทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายเป็นเจ้าหน้าที่ของกระทรวง ทั้งนี้ ขอให้บุคลากรกระทรวง และประชาชนที่ใช้ทางผ่านกระทรวงสาธารณสุข ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ทั้งการสวมหมวก คาดเข็มขัดนิรภัย ลดความเร็วเมื่อขับขี่ในเขตชุมชน
+++นพ.สกล สุขพรหม แพทย์โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี เปิดเผย อาการของนายสมชายว่า อาการยังทรงตัว รู้สึกได้เล็กน้อย บางครั้งสามารถทำตามที่สั่งได้ เช่น กระดิกนิ้ว ขยับแขนและขา ส่วนการวัดชีพจรอยู่ในเกณฑ์ปกติ และยังไม่ถอดเครื่องช่วยหายใจอยู่ในห้องไอซียู
+++ด้านนพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยว่า องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้กำหนดให้วันที่ 19 พ.ย. เป็นวันรำลึกถึงเหยื่ออุบัติเหตุทางท้องถนนของโลก โดยให้แต่ละประเทศทั่วโลกกำหนดจัดกิจกรรมของตัวเอง เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกของผู้ใช้รถใช้ถนนให้มากขึ้น ซึ่งปีนี้ในส่วนของประเทศไทยก็จะมีการจัดพิธีรำลึกถึงเหยื่ออุบัติเหตุทางท้องถนนขึ้นที่หน้ายูเอ็น ในเวลา 09.00 น.
+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ปิดตลาดปรับตัวลด 12.37 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,690.26 จุด มูลค่าการซื้อขาย 60,963.30 ล้านบาท
+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียวญี่ปุ่น ทำสถิติปิดในแดนลบติดต่อกัน 6 วันทำการ เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขาย ได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯและการแข็งค่าของเงินเยน ดัชนีปิดร่วงลง 351.69 จุด แตะที่ระดับ 22,028.32 จุด
+++ดัชนีฮั่งเส่ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ร่วงลง 300.43 จุด ปิดที่ 28,851.69 จุด ราคาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กดิ่งลงเกือบร้อยละ 2 เมื่อคืนนี้ ภายหลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันราว 1แสนบาร์เรล/วัน ในปีนี้และปีหน้า สู่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน และ 1.3 ล้านบาร์เรล/วัน ตามลำดับ
+++เอเอฟพี รายงานว่า นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนกรุงเนย์ปีดอว์ เมียนมาในวันนี้ กล่าวในการแถลงข่าวร่วมกับนางอองซาน ซูจี ผู้นำสูงสุดของเมียนมาว่า เขาจะไม่ผลักดันให้รัฐบาลสหรัฐฯลงมติคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อประเทศเมียนมา กรณีล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาวิกฤติเกี่ยวกับชาวมุสลิมโรฮิงญา พร้อมแสดงความกังวลเรื่องสถานการณ์ในเมียนมา เสนอแนะให้รัฐบาลเมียนมาตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อสอบสวนข้อครหาต่างๆที่ระบุว่า กองทัพเมียนมาได้ทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนกลุ่มน้อยชาวโรฮิงญา กรณีการหายตัวไปของชาวโรฮิงญาจากค่ายอพยพ การฆาตกรรม การข่มขืน การจุดไฟเผาบ้านเรือนของชาวโรฮิงญาจริงหรือไม่
+++ด้านนางซูจี ตอบข้อซักถามจากนักข่าวในเรื่องกระแสวิจารณ์ที่ว่าเธอนิ่งเงียบในเรื่องนี้มาตลอด ปฏิเสธว่าเธอไม่ได้นิ่งเงียบและไม่ให้ความสำคัญกับประเด็นข้อวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่เธอพูดออกมาไม่ใช่มุ่งจะสร้างความหวือหวาให้คนสนใจ แต่ต้องการจะพูดในประเด็นที่ถูกต้อง ตรงกับข้อเท็จจริง ไม่ใช้ปลุกปั่นให้คนกลุ่มหนึ่งมาขัดแย้งกับอีกหนึ่งกลุ่ม ซึ่งยิ่งจะสร้างปัญหาร้าวฉานในชุมชนหนักยิ่งขึ้น
+++ชาวโรฮิงญากว่า 6 แสนคนหลบหนีเข้าไปที่บังกลาเทศ เพื่อนบ้าน นับตั้งแต่กองทัพเมียนมาเริ่มใช้ปฏิบัติการปราบปรามกลุ่มติดอาวุธชาวโรฮิงญาเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม
แฟ้มภาพ