เอเอฟพี รายงานอ้างสถาบันเศรษฐกิจและสันติภาพของออสเตรเลีย ซึ่งรวบรวมสถิติเหตุก่อการร้ายทั่วโลกมาแล้ว 17 ปี
ร่วมกับทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแมร์รี่แลนด์ของสหรัฐฯ นับว่าเป็นหนึ่งในดัชนีชี้วัดเหตุก่อการร้ายที่ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของโลก พบว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุก่อการร้ายทั่วโลกลดลงเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันจากเมื่อปีที่แล้ว แต่มีจำนวนประเทศที่เคยเกิดเหตุก่อการร้ายเพิ่มเป็น 77 ประเทศ มีคนเสียชีวิต 25,673 ศพ ลดลงร้อยละ 22 จากช่วงที่เกิดเหตุโจมตีของผู้ก่อการร้ายมากที่สุดในปี 2557 ระบุถึงตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ลดลงว่า เป็นผลในทางบวกและเป็นจุดพลิกผันสำคัญจากการปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายทั่วโลก
รายงานนี้ตั้งข้อสังเกตว่า ในภาพรวมตัวเลขผู้เสียชีวิตลดลงมากในซีเรีย ปากีสถานและอัฟกานิสถาน พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่าการโจมตีของกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)ในอิรักเมื่อปีที่แล้ว ส่งผลให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตในอิรักเพิ่มขึ้นเกือบครึ่งหนึ่งจากตัวเลขผู้เสียชีวิตรวมร้อยละ 40 ในอิรัก พร้อมทั้งเตือนว่า นักรบกลุ่มไอเอสในอิรักและซีเรีย อาจจะไปเข้าร่วมกับกลุ่มหัวรุนแรงในพื้นที่อื่นๆของโลก หลังการแพ้สงครามในอิรักและซีเรีย แต่ข้อสังเกตว่าขณะนี้ศักยภาพในการโจมตีของกลุ่มไอเอสเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีคนเสียชีวิตจากเหตุก่อการร้ายลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้
ส่วนในอัฟกานิสถาน รายงานตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อปีที่แล้ว กลุ่มตอลีบัน ได้ลดการโจมตีพลเรือน แต่เพิ่มการโจมตีเจ้าหน้าที่ความมั่นคงมากขึ้น
สำหรับในยุโรปและประเทศที่พัฒนาแล้วอื่นๆ เมื่อปีที่แล้ว มีคนเสียชีวิตจากเหตุก่อการร้ายมากที่สุดนับแต่ปี 2531 แต่ไม่รวมเหตุวินาศกรรมสหรัฐฯเมื่อ 11 กันยายน 2544
ส่วนเรื่องสถานการณ์ด้านความมั่นคงในประเทศไนจีเรีย รายงานนี้ระบุว่าสถานการณ์เริ่มดีขึ้นมาก ระบุว่าการก่อการร้ายของกลุ่มติดอาวุธโบโกฮาราม ลดมากถึงร้อยละ 80 เมื่อปีที่แล้ว
ทีมต่างประเทศ
CR:AFP