เกิดเหตุวุ่นวายที่สถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯ ในฮ่องกง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหน้ากากกันแก๊สพิษ และชุดปฏิบัติการกู้ภัยสารเคมีและวัตถุอันตราย ร่วมด้วยหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด หรืออีโอดี เข้าปิดล้อมสถานกงสุล เนื่องจากมีการแจ้งเตือนด้วยเสียงสัญญาณเตือนภัย เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจพบซองจดหมายซึ่งภายในมีสารลักษณะเป็นผงสีขาว ผลการตรวจสอบในเวลาต่อมาพบว่าผงสีขาวนี้ไม่ใช่สารอันตราย
ความคืบหน้าเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.3 แมกนิจูดบริเวณชายแดนอิรัก-อิหร่าน ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 400 รายและบาดเจ็บหลายพันคน โดยในอิหร่าน อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน แถลงแสดงความเสียใจและขอให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยและหน่วยงานทุกแห่งของรัฐบาลให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ โดยเมืองชาร์โปล อี-ซาฮับ ได้รับความเสียหายมากที่สุด พบผู้เสียชีวิตมากกว่า 236 รายขณะที่โรงพยาบาลในเมืองได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว ส่วนในอิรัก พบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 รายและบาดเจ็บอย่างน้อย 535 คน
นางออง ซาน ซู จี มนตรีแห่งรัฐเมียนมา ยังคงเผชิญแรงกดดันเนื่องจากการที่กองทัพปราบปรามกองกำลังติดอาวุธปลดปล่อยชาวอาระกันโรฮิงยา หรืออาร์ซา แต่ทำให้ชนกลุ่มน้อยชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ ต้องหลบหนีไปยังบังกลาเทศแล้วกว่า 6 แสนคน โดยในวันพรุ่งนี้ นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีการต่างประเทศสหรัฐฯ จะเดินทางไปเมียนมาเพื่อพบหารือกับนางซู จี และพล.อ.มิน อ่องหล่าย ที่กรุงเนปิดอว์เพื่อเรียกร้องให้กองทัพเมียนมารับผิดชอบหลักต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้นมานานกว่า 2 เดือนครึ่งและต้องการให้ยุติการใช้ความรุนแรง
กองทัพเมียนมา หรือตะมะดอ มีคำสั่งย้ายพลตรีหม่อง หม่องโซ ผู้บัญชาการกองกำลังภาคตะวันตก ในรัฐยะไข่ และแต่งตั้งนายพลจัตวาโซ ตินนาย เป็นผู้บัญชาการคนใหม่ โดยไม่มีการเปิดเผยสาเหตุในการย้าย
ด้านตำรวจในนครย่างกุ้งจับกุมพระพะเมาคา พระสงฆ์ที่มีแนวคิดชาตินิยมสุดโต่งซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มมาบาธา ฐานมีส่วนร่วมในการชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาต ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้านหน้าของสถานทูตสหรัฐ ในย่างกุ้งเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งสื่อในเมียนมาระบุว่า การจับกุมในครั้งนี้ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับความรุนแรงในรัฐยะไข่แต่อย่างใด
นายบ๊อบ เกลดอฟ ศิลปินและและนักเคลื่อนไหวทางการเมืองชาวไอริช วัย 66 ปี ประกาศคืนรางวัลเสรีภาพแห่งกรุงดับลินของไอร์แลนด์ เพื่อประท้วงการที่นางซูจีได้รับรางวัลเดียวกันนี้ โดยเขาระบุว่า ไม่อยากเกี่ยวข้องกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกวาดล้างชาติพันธุ์
ส่วนการประชุมสุดยอดผู้นำสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) กับประเทศคู่เจรจา ณ กรุงมะนิลา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ พบหารือกับประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ของฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นเจ้าภาพ ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ เดินทางเยือนฟิลิปปินส์เป็นประเทศสุดท้ายในการเดินทางเยือน 5 ชาติเอเชีย เพื่อหาความร่วมมือในการทำให้เกาหลีเหนือยุติโครงการนิวเคลียร์ และประธานาธิบดีสหรัฐ ไม่ได้นำข้อเรียกร้องของนักสิทธิมนุษยชนมาหารือกับประธานาธิบดีฟิลิปปินส์
ขณะเดียวกัน ยังกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงหลายคนอยู่ที่ด้านหน้าของสถานที่จัดการประชุม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ต่อต้านประธานาธิบดีสหรัฐ
ประธานาธิบดีดูตอร์เต ผู้นำฟิลิปปินส์ ในฐานะประธานการประชุม ระบุในแถลงการณ์ว่า ที่ประชุมมีการลงนามในสนธิสัญญาอาเซียนว่าด้วยการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของแรงงานอพยพ ถือเป็นข้อตกลงครั้งสำคัญ ที่แสดงให้เห็นว่า อาเซียนให้ความสำคัญกับการปกป้องสิทธิของแรงงานอพยพ หลังจากที่รัฐมนตรีแรงงานอาเซียนต้องใช้เวลานานหลายปีเพื่อจัดทำแผนแม่บทจนทำไปสู่สนธิสัญญา พร้อมระบุด้วยว่า ความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของภูมิภาค จะต้องดำเนินไปโดยมีความสอดคล้องกับแรงงานในภูมิภาค
รัฐบาลเวียดนามและจีนออกแถลงการณ์ร่วมในการรักษาสันติภาพในทะเลจีนใต้ โดยจะจัดการข้อขัดแย้งทางทะเลด้วยดี ไม่ดำเนินการใดที่อาจสร้างความยุ่งยากหรือ ขยายความขัดแย้ง และจะรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในทะเลตะวันออก หลังจากที่มีความตึงเครียดเกิดขึ้นในพื้นที่มาเป็นเวลานาน และยิ่งเพิ่มสูงขึ้นเมื่อต้นปีนี้ เมื่อเวียดนามระงับโครงการสำรวจน้ำมันในพื้นที่พิพาท
ส่วนความคืบหน้าของเบร็กซิต นายมิเชล บาร์นิเยร์ หัวหน้าคณะเจรจาเบร็กซิตของสหภาพยุโรป หรือ อียู เปิดเผยว่า เขามีแผนสำรองหากการเจรจาเบร็กซิตล้มเหลว เพราะสหราชอาณาจักรมีเวลา 2 สัปดาห์ในการบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในประเด็นหลัก หากสหราชอาณาจักรต้องการเข้าสู่การเจรจาขั้นต่อไปในเดือนธันวาคม ซึ่งยังรวมถึงการที่สหราชอาณาจักรต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการถอนตัวออกจากอียู เป็นเงิน 60,000 ล้านยูโร นอกจากนี้ยังมีประเด็นแคว้นไอร์แลนด์เหนือในสหราชอาณาจักร ที่ไม่ต้องการออกจากอียู ที่เดิมกำหนดไว้ในช่วงเดือนธันวาคมปีนี้ ก็อาจต้องเลื่อนออกไปเป็นเดือนกุมภาพันธ์ หรือ มีนาคม ปีหน้า
ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์ซันเดย์ ไทมส์ รายงานว่า สมาชิกรัฐสภาจำนวน 40 คนจากพรรคอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ลงนามในหนังสือไม่ไว้วางใจ ซึ่งขาดอีก 8 คนก็จะครบจำนวนที่จะทำให้นายกรัฐมนตรีเมย์ต้องออกจากตำแหน่ง
ที่กรุงเดลี ของอินเดีย ผู้ปกครองเด็กนักเรียนจำนวนมากไม่พอใจทางการที่ให้โรงเรียนเปิดการเรียนการสอนได้ตามปกติ แม้ว่าปัญหามลพิษจะรุนแรงขึ้นจนอยู่ในระดับอันตราย สมาคมผู้ปกครองอินเดียระบุว่า หน่วยงานรัฐบาลด้านหนึ่งประกาศว่าสถานการณ์เลวร้ายถึงขั้นฉุกเฉิน แต่อีกด้านหนึ่งกำลังเล่นกับชีวิตเด็กๆ ที่ต้องหายใจติดขัด หรือไอไปตลอดทางขณะไปโรงเรียน โดยค่าฝุ่นละอองในเมืองหลวงสูงกว่าค่าปลอดภัยถึง 20 เท่า
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด เดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ ปิดที่ 56.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือ ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 36 เซนต์ ปิดที่ 63.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 17.49 จุด หรือร้อยละ 0.07 ปิดที่ 23,439.70 จุด
เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 2.54 จุด หรือร้อยละ 0.10 ปิดที่ 2,584.84 จุด
แนสแดค เพิ่มขึ้น 6.66 จุด หรือร้อยละ 0.10 ปิดที่ 6,757.60 จุด
.