ตามที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่าจะมีการปลดล็อกการเมืองในระดับท้องถิ่นก่อน เพื่อให้นักการเมืองสามารถทำกิจกรรมและรณรงค์หาเสียงได้ แต่ยังมีข้อขัดแย้งกรณีที่ กฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนดให้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.เป็นผู้จัดการเลือกตั้งท้องถิ่น แต่ในพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยกกต. บัญญัติให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้จัด นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวว่าเรื่องนี้มีการทักท้วงมาตั้งแต่ชั้นกรรมาธิการฯ แต่ไม่ได้มีการแก้ไข กกต.จึงมีมติให้สำนักงานยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อกฎหมายและจะมีการเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยเร็ว
สำหรับการประชุม กกต.ในวันนี้จะมีการหารือ เพื่อตอบคำถามของสองพรรคการเมืองใหญ่ ที่สอบถามว่าสามารถดำเนินการอะไรได้บ้างระหว่างที่ยังไม่มีการปลดล็อคพรรคการเมือง
นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เตรียมนำเรื่องการปลดล็อกเลือกตั้งท้องถิ่น เข้าหารือในคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิปสนช.) ในสัปดาห์นี้ เพื่อเตรียมความพร้อม ซึ่งจะไม่กระทบการพิจารณา ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ที่เหลืออยู่ 3 ฉบับ
ศูนย์วิจัยแบงก์ออมสิน เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นคนฐานรากไตรมาส 3 ดีขึ้น นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจธุรกิจและเศรษฐกิจฐานราก ธนาคารออมสินได้ สำรวจดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานราก (GSI)ประจำไตรมาส 3 ปี 2560 จากกลุ่มตัวอย่างผู้มีรายได้ไม่เกิน 15,000 บาท จำนวน 1,941 ตัวอย่าง พบว่า ดัชนีอยู่ที่ระดับ 46.9 ปรับตัวสูงขึ้นจากไตรมาสก่อนที่อยู่ระดับ 46.9 และคาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในไตรมาส 4 แต่การที่ราคาสินค้าเกษตรที่ยังอยู่ในระดับต่ำส่งผลให้ประชาชนยังคงระมัดระวังการใช้จ่าย และว่าการที่ความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นยังเกิดจากการที่รัฐมีนโยบายสวัสดิการที่เป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง
ส่วนการสำรวจพฤติกรรมการออมของประชาชนระดับฐานราก พบว่ากลุ่มตัวอย่างร้อยละ 55.4 มีเงินออม โดยส่วนใหญ่มีการออมแบบรายเดือน เฉลี่ย 2,000 บาทต่อเดือน เมื่อเทียบกับผลสำรวจในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน พบว่าสัดส่วนผู้ที่มีเงินออมเพิ่มขึ้น โดยในไตรมาสที่ 3 ปี 2559 สัดส่วนประชาชนระดับฐานราก มีเงินออมอยู่ที่ ร้อยละ 41.6 ของกลุ่มตัวอย่าง
ความคืบหน้าเหตุแผ่นดินไหวบริเวณพรมแดนระหว่างอิรักกับอิหร่าน ซึ่งหลังจากที่มีแผ่นดินไหวขนาด 7.3 แล้ว ก็เกิดแผ่นดินไหวอีกครั้งขนาด 4.5 แมกนิจูดในอีก 3 ชั่วโมงถัดมาในพื้นที่เดิม นอกจากนี้ยังมีแผ่นดินไหวขนาด 5.9 ทางฝั่งตะวันออกของเกาะฮอนชูที่ญี่ปุ่น และ 6.6 บริเวณชายฝั่งทางตะวันตกของ คอสตาริกา ไม่มีความเสี่ยงเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ
สำหรับแผ่นดินไหวในบริเวณเขตเทือกเขาชายแดนอิรัก-อิหร่าน ล่าสุดจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นมากกว่า 135 ราย บาดเจ็บอีกหลายร้อยคน กับยังเกิดเหตุอาคารทรุดตัวและดินถล่มหลายจุด โดยที่จังหวัดเคอร์มานชาห์ของอิหร่านมีผู้เสียชีวิตมากถึง 129 ราย แต่มีความกังวลว่าจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเพราะยังมีผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารที่ทรุดตัว แต่เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังไม่สามารถเข้าถึงหมู่บ้านหลายแห่ง เนื่องจากถนนที่เสียหาย ทั้งมีดินถล่มลงมากีดขวางเส้นทาง นอกจากนี้โรงพยาบาลหลักในเมืองก็เสียหายมากเช่นกัน ยิ่งทำให้การรักษาผู้บาดเจ็บยิ่งยากกว่าเดิม
ส่วนที่อิรัก ความเสียหายส่วนใหญ่อยู่ในเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถาน พบผู้เสียชีวิต 6 ราย แต่เนื่องจากการสื่อสารและคมนาคมที่ขัดข้อง ทำให้คาดว่าความสูญเสียที่แท้จริงจะมากกว่านี้
..