แผ่นดินไหวชายแดนอิรัก-อิหร่าน/การเมือง-ข่าวกรองวิจารณ์ทรัมป์เชื่อปูติน

สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่อง แผ่นดินไหวขนาด 7.5 ที่บริเวณชายแดนอิรัก-อิหร่าน เมื่อเวลาประมาณ 1.18 น.ตามเวลาประเทศไทย  สำนักข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมว่า ในเบื้องต้น มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 รายในพื้นที่ทางตะวันตกของอิหร่าน ส่วนในอิรักมีผู้เสียชีวิต 4 ราย และแรงสั่นสะเทือนรู้สึกได้ถึงกรุงแบกแดด ส่วนเจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย อย่างไรก็ตามระบบไฟฟ้า และการสื่อสารในหลายพื้นที่ได้รับความเสียหาย

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เปิดเผยว่าเขามีความเชื่อมั่นว่า ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ไม่ได้แทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว ตามที่ได้พบหารือกันในระหว่างการประชุมเอเปกที่เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม เมื่อช่วงสุดสัปดาห์  แต่การเปิดเผยของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำให้ถูกฝ่ายการเมืองในสหรัฐฯเองวิจารณ์ เพราะสำนักงานข่าวกรองของสหรัฐฯ มีรายงานยืนยันมาหลายเดือนแล้วว่า รัสเซียแทรกแซงการเมืองสหรัฐฯ

นายเจมส์ แคลปเปอร์ อดีตผู้อำนวยการข่าวกรองสหรัฐฯ กล่าวว่า การที่ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ เชื่อถือคำพูดของประธานาธิบดีรัสเซียมากกว่าหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ เป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นถึงความไม่มีสติ

ขณะที่วุฒิสมาชิกจอห์น แมคเคน ประธานคณะกรรมาธิการการทหารของวุฒิสภา สหรัฐฯ ซึ่งเป็นรีพับลิกันที่มักจะวิจารณ์การทำงานของประธานาธิบดีทรัมป์มาตลอดเห็นว่าการที่ประธานาธิบดีทรัมป์เข้าร่วมการประชุมเอเปกไม่มีอะไรที่สนับสนุนนโยบายอเมริกาต้องมาก่อน โดยเฉพาะการที่เชื่อถือคำพูดของพันเอกเคจีบีคนหนึ่ง มากกว่าประชาคมข่าวกรองอเมริกัน

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่ประธานาธิบดีทรัมป์เดินทางจากเวียดนามไปเข้าร่วมการประชุมอาเซียนที่ฟิลิปปินส์ เขาก็วิจารณ์บุคคลที่วิพากษ์วิจารณ์เขาว่าให้หยุดกดดัน และเห็นว่าบุคคลเหล่านี้คือผู้แสวงหาผลประโยชน์ทางการเมือง

ประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เต ผู้นำฟิลิปปินส์ เสร็จสิ้นการประชุมเอเปก ที่เมืองดานัง และเดินทางกลับมาที่กรุงมะนิลาเพื่อเตรียมการประชุมผู้นำชาติสมาชิกและประเทศในความร่วมมืออาเซียน และกล่าวว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ จะไม่นำประเด็นสิทธิมนุษยชนในฟิลิปปินส์ขึ้นมาหารือ แม้กลุ่มปกป้องสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศจะเรียกร้องให้ผู้นำสหรัฐฯ กดดันผู้นำฟิลิปปินส์ กรณีการทำสงครามปราบปรามยาเสพติดที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 6,200 ราย

กองทัพฟิลิปปินส์แถลงว่า เจ้าหน้าที่ทหารสามารถช่วยเหลือลูกเรือชาวเวียดนาม 3 คนของ เรือบรรทุกสินค้า ที่ถูกกลุ่มอาบูไซยาฟลักพาตัวไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ และการช่วยเหลือมีขึ้นในระหว่างปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มก่อการร้ายในน่านน้ำทะเลจีนใต้

ที่โปแลนด์ ประชาชนมากกว่า 60,000 คนร่วมการชุมนุมเนื่องในวันชาติ ที่กรุงวอร์ซอ โดยมีกลุ่มชาตินิยมขวาจัด 2,000 คนที่แสดงเจตนาสร้างโปแลนด์ที่บริสุทธิ์ปราศจากผู้อพยพลี้ภัย ซึ่งทำให้หลายฝ่ายไม่พอใจ และมีกลุ่มต่อต้านขวาจัดชุมนุมเพื่อแสดงเจตนาว่าไม่ต้องการลัทธิฟาสซิสต์

ส่วนที่เลบานอน ประธานาธิบดี มิเชล อูน เรียกร้องให้ซาอุดีอาระเบียชี้แจงเหตุผล กรณีที่นายกรัฐมนตรีซาอัด อัล-ฮารีรี ประกาศลาออกอย่างกระทันหันขณะที่เดินทางไปซาอุฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และไม่สามารถเดินทางกลับมาประเทศโดยเขาเห็นว่านายฮารีรีถูกลักพาตัว และควรได้รับความคุ้มครอง

ด้านประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส แสดงความกังวลเช่นเดียวกัน และเห็นว่า นายกรัฐมนตรีเลบานอนควรมีเสรีภาพในการเคลื่อนไหว

แต่ทางการซาอุฯ ยืนยันว่า ไม่ได้ควบคุมตัวนายฮารีรี แต่การที่นายฮารีรีไม่ได้ปรากฏตัวต่อสาธารณชนอีกเลย นับจากประกาศลาออกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็พราะกลัวว่าจะถูกลอบสังหาร ทั้งเห็นว่าอิหร่านมีความร่วมมือกับกลุ่มฮิสบอลเลาะห์สร้างความแตกแยกในโลกอาหรับ โดยการที่เขาไม่ได้กลับไปเลบานอนก็เพราะครอบครัวของเขามีธุรกิจอยู่ในซาอุฯ

อย่างไรก็ตามล่าสุดนายฮารีรี ให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ซาอุฯ ว่าเขาพร้อมที่จะเดินทางกลับเลบานอนในเร็วๆ นี้

กองกำลังอิรักเปิดฉากปฏิบัติการยึดคืนเมืองราวา เมืองแห่งสุดท้ายที่ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส หลังจากที่กองทัพซีเรียเพิ่งประกาศชัยชนะด้วยการยึดเมืองสำคัญแห่งสุดท้ายบริเวณชายแดนติดกับอิรัก

บาห์เรนออกแถลงการณ์ประณามกลุ่มก่อการร้ายที่ก่อเหตุระเบิดระบบท่อสายส่งน้ำมันครั้งใหญ่ เพื่อทำลายผลประโยชน์สำคัญของชาติ และความปลอดภัยของประชาชนบาห์เรน พร้อมโทษอิหร่านว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังกลุ่มติดอาวุธที่เป็นผู้ก่อเหตุ 

สำหรับที่เกิดเหตุเป็นท่อส่งน้ำมันจากซาอุดีอาระเบียที่หมู่บ้านบูรี ห่างจากกรุงมานามาไปทางเหนือราว 15 กม. ซึ่งทางการอิหร่านตอบโต้ว่า สิ่งเดียวที่ทางการบาห์เรนมักจะทำเสมอเมื่อเกิดเหตุร้ายในประเทศก็คือกล่าวโทษอิหร่าน ซึ่งเป็น ข้อกล่าวหาที่ไร้เดียงสา และโกหก 

...