การลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุรถยนต์ตกจากชั้น 4 อาคารชุมชนทรัพย์สิน ซอยไผ่สิงโต ถนนพระราม4 เขตคลองเตย ดร. ธเนศ วีระศิริ นายก วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) เปิดเผยว่า วันนี้มาตรวจสอบในเรื่องผนังกั้นลานจอดรถ เบื้องต้นพบว่าตัวผนังมาความหนาประมาณ 10 เซนติเมตร เมื่อรวมกับปูนที่ฉาบผนัง จะทำให้มีความหนาประมาณ 13-14 เซนติเมตร แต่เหล็กที่ใช้ทำโครงผนังมีความหนาไม่ถึง 9 มิลลิเมตร และไม่ใช่เหล็กป้องกันการกระแทก ไม่ใช่เหล็กสำหรับการก่อสร้างผนังลานจอดรถ เมื่อรถชนจึงไม่สามารถป้องกันได้ เหล็กกระตุกและขาด ทำให้ผนังพังลงมา หลังจากนี้จะมีการหารือสำนักงานโยธาธิการ กรุงเทพมหานคร เพื่อหามาตรการป้องเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะอาคารที่ก่อสร้างมาเป็นเวลานาน ระหว่างที่รอการออกกฎหมายเกี่ยวกับแผงป้องกันรถตกจากอาคารของกรุงเทพมหานคร

ดร.ธเนศ ยอมรับว่า มาตรการออกแบบผนังป้องกั้นรถตกตึกทำได้ยากมาก เพราะหากสร้างผนังที่แข็งแรงเกินไป อาจทำให้ผู้ที่ชนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุจากแรงอัดกระแทกได้ แต่ถ้าบางเกินไป จะทำให้รถตกจากตึกได้ หลังจากนี้จะต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงขนาดความหนาของผนังให้เหมาะสมกับลานจอดรถ อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ ต้องขอความร่วมมือจากเจ้าของอาคารเพื่อหาแนวทางแก้ไข
ด้าน รศ.เอนก ศิริพานิชกร กรรมการและประธานสาขาวิศวกรรมโยธา ยอมรับเช่นกันว่า การออกแบบผนังลานจอดรถให้มีความเหมาะสมเป็นเรื่องยากมาก โดยเจ้าของอาคารเก่าต้องตระหนักในเรื่องการตรวจเช็คสภาพอาคารให้รอบด้าน และประสานสำนักงานโยธาธิการ กรุงเทพมหานคร เพื่อหาแนวทางป้องกัน ซึ่งในต่างประเทศมีกฎหมายในการรองรับการสร้างผนังลานจอดรถ
สำหรับการตรวจสอบขนาดความกว้างช่องจอดรถในอาคารมีความกว้าง 2.75 เมตร ซึ่งอยู่ในระดับมาตรฐานของลานจอดรถที่จะต้องไม่แคบกว่า 2.5 เมตร
สำหรับในวันนี้ ยังคงมีการกั้นพื้นที่เกิดเหตุบริเวณลานจอดรถชั้น 4 เช่นเดิม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ขณะที่บริษัทประกันภัยรถยนต์ นำซากรถที่เกิดอุบัติเหตุออกไปตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว
...
ผสข.ปภาดา พูลสุข