รองผบ.ตร.ขยายสอบตร.เรียกส่วยสถานบริการทั่วประเทศ หลังถูกร้องเรียนที่จ.ภูเก็ต

การตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ตำรวจจังหวัดภูเก็ต 15 นาย หลังไม่มีหลักฐานการรับตัวผู้ต้องหาชาวต่างชาติ กว่า 140 คน ของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต  พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง แล้ว โดยมีพลตำรวจตรีธีรพล คุปตานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เป็นหัวหน้าคณะกรรมการ ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน และให้ติดตามตัวผู้ต้องหาทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการผลักดันออกนอกประเทศ ขณะที่ผลการระดมกวาดล้างชาวต่างชาติ ที่กระทำความผิดในจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนพบว่า สามารถจับกุมชาวซีเรียที่หลบหนีเข้าเมือง ในจังหวัดภูเก็ตนานกว่า 3 ปี ว่าอยู่ระหว่างสอบสวนว่า เกี่ยวข้องกับขบวนการก่อการร้าย หรือไม่

ส่วนกรณีที่มีการร้องเรียนว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เรียกรับส่วยจากสถานบริการ พลตำรวจเอกศรีวราห์ เปิดเผยว่า ขณะนี้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และ สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งมีชื่อถูกพาดพิงว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์จากสถานบริการในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เดือนละกว่า 100 ล้านบาท โดยจะให้การสอบสวนแล้วเสร็จภายใน 30 วัน แต่จากการตรวจสอบข้อมูลผู้ถูกร้องเรียน พบว่า ไม่ได้มีการรับเงินถึงจำนวนดังกล่าว ซึ่งจะเป็นคนละส่วนกับการตรวจสอบวินัยของจเรตำรวจ ส่วนจะพัวพันกับนายตำรวจยศพลตำรวจตรี สังกัดตำรวจท่องเที่ยวหรือไม่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล  พร้อมสั่งการให้ตำรวจทุกพื้นที่ทั่วประเทศ บังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อไม่ให้เกิดการเรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ

ด้านพลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้สั่งการให้ตำรวจ2นายในระดับรองผู้บังคับการและรองกำกับการไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฎิบัติการตำรวจภูธรภาค8จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยยังไม่ได้สรุปผลว่ากระทำผิดหรือไม่ แต่เป็นการให้ออกนอกพื้นที่เพื่อความสบายใจของทุกฝ่ายและให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างโปร่งใส

ส่วนกรณีที่ตั้งข้อสังเกตว่า มีการตัดชื่อตำรวจท่องเที่ยวออกจากหน่วยงานที่รับส่วยนั้น พลตำรวจเอกวิระชัยยืนยันว่า การสืบสวนจะต้องตรวจสอบทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกันหลังจากนี้จะต้องมีการเชิญผู้ร้องเรียนและผู้มีข้อมูลเข้ามาสอบถามด้วยเช่นกัน