นทท.ต่างชาติ เข้าชมนิทรรศการพระเมรุมาศ/ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสะท้อนศก.ไทยดีขึ้น/อย่าตกใจหนอนนิวกินีแพร่เชื้อไข้ปวดหัวหอย

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30  น.

+++การเข้าชมนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตลอดทั้งวันนี้นอกจากจะมีประชาชนคนไทยจากทั่วสารทิศเดินทางเข้าชมอย่างต่อเนื่อง ยังมีนักท่องเที่ยวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาชมความงดงามของพระเมรุมาศอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ผู้เข้าชมห้ามเซลฟี่ ถ่ายรูปได้แต่ต้องอยู่ในกริยาเหมาะสม และห้ามจับสิ่งของที่จัดแสดงส่วนการแต่งตัว ให้เป็นเช่นเดียวกับการเข้าชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว โดยงดเสื้อสายเดี่ยว กางเกงขาสั้น รัดรูปและเสื้อแขนกุด ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จากผู้เข้าชมทั้งชาวไทยและต่างชาติ พล.ต.ธานี ฉุยฉาย ที่ปรึกษาแม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง (กอร.รส.)  เปิดเผยว่าตั้งแต่เปิดให้เข้าชมพระเมรุมาศมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้าชมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของนักท่องเที่ยวต่างชาติแม้จะจำนวนไม่มากนัก แต่ได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการถ่ายภาพพระเมรุมาศเพียงอย่างเดียวไว้บริเวณถนนด้านหน้าพระเมรุมาศ ซึ่งจะอนุญาตให้ถ่ายเป็นเวลา 15 นาที ในช่วงที่ปล่อยประชาชนเข้าด้านในนิทรรศการแล้วเท่านั้น และหากนักท่องเที่ยวต้องการเข้าชมด้านในก็จะต้องต่อแถวคอยในเต๊นท์พักคอยเช่นประชาชนทั่วไป ส่วนกรณีเป็นกรุ๊ปทัวร์หรือมาเป็นคณะให้มัคคุเทศก์(ไกด์) หรือคนดูแลติดต่อเจ้าหน้าที่ที่จุดคัดกรองได้เลยซึ่งเจ้าหน้าที่จะจัดให้เข้ารอบละไม่เกิน 3,000 คนเท่านั้นเพราะเป็นจำนวนที่เหมาะสมสามารถกระจายตัวเข้าชมนิทรรศการได้อย่างทั่วถึงและไม่แออัดกอร.รส.เปิดเผยว่าตั้งแต่เปิดให้เข้าชม วันแรก 2 พ.ย.จนถึงวันที่ 8พ.ย.ผ่านมากกว่า 7 วันมีประชาชนเข้าชมแล้ว332,199 คน

+++ด้าน นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่านโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลจะเดินหน้าต่อไม่มีเปลี่ยน จะเป็นนโยบายที่สร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจรากหญ้า การสร้างความเข้มแข็งให้เอสเอ็มอี สร้างอุตสาหกรรมใหม่ เศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางในอนาคต ขณะเดียวกัน เล็กแต่มีบทบาทสำคัญในภูมิภาค เพราะนั่นคือทางรอดของไทย

+++นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนตุลาคม 2560 ว่า  ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากผู้บริโภคมีความหวังว่าเศรษฐกิจไทยในอนาคตจะปรับตัวดีขึ้นตามการส่งออกและท่องเที่ยวที่จะฟื้นตัวดีขึ้นช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับผู้บริโภคส่วนใหญ่เริ่มคลายกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมือง ทำให้เริ่มมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น แต่เป็นการจับจ่ายอย่างระมัดระวัง ภาพรวมการจับจ่ายช่วงปลายปี มองว่ายากที่จะประเมินว่านโยบายช็อปช่วยชาติจะมีเงินเข้าระบบ 20,000 ล้านบาท ตามที่รัฐบาลคาดหวังได้จริงหรือไม่

+++นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังเร่งจัดทำฐานข้อมูลแบบ Big Data เพื่อรวบรวมข้อมูลผู้มีรายได้น้อยก่อนจะออกมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยระยะ 2 หรือเฟส 2 ที่จะเน้นการเพิ่มรายได้ให้กับผู้มีรายได้น้อยต่ำกว่า 100,000 บาทต่อปี ที่มีอยู่ 11.64 ล้านคน ให้มีรายได้สูงขึ้นและหลุดพ้นจากความยากจน  ปลัดกระทรวงการคลังยังยอมรับการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยครั้งแรกในการดำเนินการของรัฐบาล จึงอาจจะมีช่องโหว่เกิดขึ้นบ้าง แต่มองว่าไม่ถึงร้อยละ 1 ของจำนวนผู้ลงทะเบียนเท่านั้น จึงถือว่าไม่ได้มีปัญหา ขณะที่การเปิดรับลงทะเบียนรอบใหม่ปี 2562 เพราะต้องการให้ข้อมูลที่มีอยู่นิ่ง เพื่อนำมาพัฒนาโครงการต่อยอดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะโครงการดังกล่าวเป็นโครงการระยะยาวที่ไม่จำเป็นต้องทำต่อเนื่องทุกปี

+++ความคืบหน้าการทบทวนและออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ (รีเอโอซี) ตามมาตรฐานองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ)  นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กพท. ออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ (เอโอซี) ให้กับสายการบินที่ทำการบินระหว่างประเทศไปแล้ว 12 ราย จากทั้งหมด 21 ราย ส่วนที่เหลืออีก 9 รายนั้น คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะสามารถออกเอโอซีให้กับสายการบินโอเรียนท์ไทยได้เป็นรายที่ 13 และจะทยอยออกเอโอซีให้กับสายการบินที่เหลือได้ครบทั้งหมดตามเป้าหมายที่วางไว้ภายในเดือน ม.ค.61ขณะนี้มีผู้ประกอบการ 2 รายใหม่ที่สนใจเปิดทำธุรกิจสายการบินเส้นทางบินในประเทศ และยื่นคำขอใบอนุญาตให้ประกอบกิจการค้าขายในการเดินอากาศ (เอโอแอล) มาแล้ว โดยภายในเดือน พ.ย.นี้ จะประชุมคณะกรรมการกลั่นกรอง และเสนอให้ รมว.คมนาคม พิจารณาออกเอโอแอลให้กับผู้ประกอบการ 2 รายนี้ คาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาออกเอโอแอล ประมาณ 3 เดือน 

+++นางจันทิรา ศรีศักดิ์ มารดาของนางสาวจริยา ศรีศักดิ์ หรือน้ำ อายุ 16 ปี  ที่ถูกนางสาวกฤษณา สุวรรณพิทักษ์ หรือโมนา อดีตนายจ้างฆ่าฝังดิน เมื่อปี 2555 กล่าวว่า ภายหลังที่ผู้ต้องหาได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ได้มีโทรศัพท์ข่มขู่พยานในคดี ซึ่งขณะนี้ พันตำรวจเอกไมตรี ฉิมเฉิด รักษาราชการแทน ผู้บังคับการกองปราบปราม ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ จังหวัดเพชรบุรี  พื้นที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบกลุ่มบุคคล ที่มีพฤติกรรมข่มขู่พยาน หากพบพฤติกรรมผู้ต้องหาเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานหรือข่มขู่พยาน จะขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวนำผู้ต้องหากลับมาควบคุมในเรือนจำทันที พลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าพูดคุยและให้กำลังใจ ย้ำจะให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และดำเนินการคุ้มครองพยาน และผู้เสียหายอย่างดีที่สุด ส่วนการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่กลับคำให้การในชั้นศาล ซัดทอดคนใกล้ชิดต้องรอผลชันสูตรศพจากสถาบันนิติเวชก่อน เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดีต่อสู้ในชั้นศาล

+++กรณีรถตู้โดยสารพานักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นและไกด์สาวไทย ชนท้ายรถสิบล้อ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 5 คนวานนี้ ล่าสุดตำรวจเข้าสอบปากคำนายจรัญ อักษรศรี อายุ 52 ปี คนขับรถตู้  โดยยอมรับว่าวันเกิดเหตุมีอาการวูบหลับใน เนื่องจากพักผ่อนน้อย จนทำให้เกิดอุบัติเหตุสอดคล้องกับข้อมูลของกรมการขนส่งทางบก ที่ตรวจสอบ GPS รถตู้พบว่า มีการขับรถเร็ว 93 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อนที่อีกนาทีถัดมาจึงเกิดอุบัติเหตุ ตำรวจเตรียมรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีทันที

+++เฟซบุ๊กร่วมกับคณะกรรมาธิการอีเซฟตีของรัฐบาลออสเตรเลียเริ่มโครงการนี้ขึ้นเพื่อต่อสู้กับปัญหาการเผยแพร่ภาพโป๊เปลือยแก้แค้น ที่สร้างความอับอายแก่ผู้ตกเป็นเหยื่อ  โครงการนี้เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก ที่เคยแชร์ภาพโป๊เปลือยหรือภาพอนาจารกับบุคคลอื่นทางออนไลน์ และกลัวว่าภาพเหล่านั้นจะถูกเผยแพร่ต่อโดยไม่ได้รับอนุญาต รายงานเกี่ยวกับรูปภาพเหล่านี้ต่ออีเซฟตี จากนั้นภาพเหล่านี้จะถูกส่งผ่านบริการส่งข้อความเมสเซนเจอร์ของเฟซบุ๊กกลับมา เพื่อให้เฟซบุ๊กสามารถ "แฮช" และสร้างลายพิมพ์นิ้วมือดิจิทัลเฉพาะตัวไว้ ตัวตนนี้จะถูกใช้สกัดกั้นการเผยแพร่ภาพต่อทั้งทางเฟซบุ๊ก, อินสตาแกรม และเมสเซสเจอร์ ไม่ให้เจ้าของภาพตกเป็นเหยื่อการแพร่ภาพโป๊แก้แค้น เฟซบุ๊กคาดว่า อังกฤษ, แคนาดา และสหรัฐ ก็จะเข้าร่วมในโครงการนี้ด้วย ที่     อีเซฟตีเริ่มเปิดช่องทางร้องเรียนทางออนไลน์เมื่อเดือนที่แล้ว ให้เหยื่อสามารถรายงานกรณีที่ภาพของพวกตนถูกแชร์ทางอินเทอร์เน็ตโดยไม่สมยอมได้ ผลสำรวจของพวกเขาเมื่อเร็วๆ นี้ชี้ว่า 1 ใน 5 ของสตรีออสเตรเลียอายุ 18-45 ปี ตกเป็นเหยื่อการล่วงละเมิดด้วยภาพ โดยเมสเซนเจอร์เป็นแอพที่ถูกใช้เป็นสื่อมากสุด 53% ตามด้วยสแนปแช็ต 11% และไอจี 4%

+++นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิณ  รองอธิบดีและโฆษกกรมควบคุมโรค ระบุกรณีรายงานข่าวเกี่ยวกับการพบหนอนตัวแบนนิวกินีในประเทศไทย ยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการและงานวิจัยทางปรสิตวิทยาที่รายงานว่า หนอนตัวแบนนิวกินีเป็นพาหะแพร่เชื้อโรคไข้ปวดหัวหอย หรือพยาธิปอดหนู หรือพยาธิหอยโข่ง ที่ก่อให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบในคน ซึ่งในเรื่องนี้ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป  อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีรายงานพบพยาธิที่สามารถก่อโรคในคนได้ แต่ในประเทศไทยยังไม่มีรายงานว่า มีผู้ป่วยติดโรคพยาธิปอดหนูที่มีพาหะแพร่โรคมาจากหนอนตัวแบนชนิดนี้  ส่วนที่มีรายงานคือ ติดโรคจากการกินหอยสุกๆ ดิบๆ จึงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก แต่ให้ระมัดระวังในเรื่องการรับประทานอาหาร ขอให้ถูกสุขอนามัย โดยเน้น “สุก ร้อน สะอาด”