นายกฯหารือทวิภาคีผู้นำหลายประเทศประชุมเอเปก/สมคิด ย้ำนโยบายศก.ไม่เปลี่ยนแม้จะปรับครม./แผ่นดินไหวหลายระลอกที่เมียนมา

09 พฤศจิกายน 2560, 12:39น.


+++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงคำถาม 6 ข้อที่นายกรัฐมนตรีถามประชาชน ว่าต้องไปถามเจตนาของนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้อธิบายไปหมดแล้ว  ส่วนเป็นการส่งสัญญาณเรื่องตั้งพรรคการเมืองหรือไม่ จะไม่พูดแล้ว เพราะพูดไปหลายครั้งแล้ว คำถามก็เดิม ๆ ดังนั้น คำตอบก็เหมือนเดิม เชื่อว่าคำถามหรือการแสดงความเห็นด้านต่าง  ๆ จะไม่ทำให้เกิดการเผชิญหน้าทางการเมือง หากอยากรู้รายละเอียดให้ไปถามนายกรัฐมนตรี  เพราะคำถามทั้งหมดนายกรัฐมนตรีเป็นคนตั้งคำถามเอง ที่เหลือขอให้ฟังเสียงประชาชน



+++ส่วนเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) พล.อ.ประวิตร กล่าวว่านายกรัฐมนตรีเป็นผู้พิจารณา ส่วนตัวไม่ได้รับสัญญาณอะไร ส่วนกระแสโจมตีให้ปรับตัวเองออก เป็นเรื่องที่ถูกโจมตีมานานแล้ว ไม่อยากให้อยู่ด้วยกัน แต่ขอเดินหน้าทำงาน  ส่วนจะทำจนเสร็จสิ้นภารกิจหรือไม่อยู่ที่นายกฯพิจารณา



+++นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยเรื่อง การปรับครม. ว่าจะปรับมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ทราบว่าจะเป็นตำแหน่งใด รวมถึงส่วนตัวจะอยู่ในส่วนถูกปรับเปลี่ยนหรือไม่ แต่ยืนยันว่าไม่ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนอย่างไร นโยบายเศรษฐกิจก็จะยังเดินตามแนวทางเดิม ปีหน้าจะเป็นปีที่เน้นการสร้างความเข้มแข็งให้รากหญ้า ทำเอสเอ็มอีเข้มแข็ง สร้างแหล่งอุตสาหกรรมใหม่ เดินหน้าเศรษฐกิจดิจิทัล สร้างให้ไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค เป็นประเทศเล็กแต่มีบทบาทสำคัญในภูมิภาค นายกฯ ย้ำเสมอ คือการน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาใส่ใจ นั่นคือพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ รัฐบาลปรับเปลี่ยนเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้ายังยืนอยู่ตรงนี้ อย่าหวังสั่นคลอน ไม่มีทาง



+++พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการเข้าร่วมประชุมผู้นำเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 25 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 10-12 พฤศจิกายน 2560 ณ นครดานัง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม  มีหัวข้อหลักในการหารือ คือ การสร้างพลวัตใหม่และการส่งเสริมการพัฒนาไปสู่อนาคตร่วมกัน  การประชุมมี 4 ประเด็นสำคัญ  คือ  การส่งเสริมการเติบโตที่ครอบคลุม สร้างสรรค์ และยั่งยืน  การส่งเสริมการรวมตัวทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค การส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันและนวัตกรรมแก่วิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อยในยุคดิจิทัล และการส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารและเกษตรกรรมอย่างยั่งยืนที่สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 



+++เป้าหมายในการเข้าร่วมประชุมของไทยครั้งนี้ คือ การได้แสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการดำเนินการที่สำคัญของไทยในกรอบเอเปค โดยเฉพาะการค้าพหุภาคี FTAAP ความเชื่อมโยงเศรษฐกิจสีเขียว (Green growth / Green economy) และการพัฒนาทุนมนุษย์ รวมถึง นโยบายของรัฐบาลในการยกระดับและพัฒนาเศรษฐกิจ   เพื่อแสดงบทบาทนำของไทยในการผลักดันเศรษฐกิจสีเขียวในภูมิภาค หรือ APEC Strategy for Green, Sustainable and Innovative MSMEs



+++นอกจากนี้ จะหารือเกี่ยวกับวาระของเอเปค หลัง ปี ค.ศ. 2020  ซึ่งจะมีส่วนในการกำหนดหัวข้อและประเด็นหลักสำหรับการประชุมเอเปค ในปี 2565 (ค.ศ. 2022) ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพ  และเพื่อใช้ประโยชน์ในช่วงเวลาดังกล่าว ในการพบหารือทวิภาคีกับผู้นำเขตเศรษฐกิจสมาชิกเอเปคอื่น ๆ,  เพื่อกระชับความสัมพันธ์และติดตามประเด็นความร่วมมือที่คั่งค้าง และ เพื่อแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์และส่งเสริมความร่วมมือกับผู้แทนจากภาคธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก



+++ในการประชุมครั้งนี้จะมีการลงนามในปฏิญญาผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (APEC Economic Leaders' Declaration)  ซึ่งมีภาคผนวก 4 ฉบับ ประกอบด้วย 1. วาระการดำเนินการเพื่อส่งเสริมความก้าวหน้าในการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ การเงิน และสังคม  2. กรอบความร่วมมือเอเปคว่าด้วยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในยุคดิจิทัล  3. ยุทธศาสตร์เอเปคว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ยั่งยืน และมีนวัตกรรม ซึ่งยกร่างโดยไทยและเปรู  และ 4. ข้อริเริ่มเอเปคในการส่งเสริมสตาร์ทอัพที่มีนวัตกรรม จะใช้ประโยชน์ในการประชุมครั้งนี้ พบปะกับผู้นำประเทศ หรือผู้นำเขตเศรษฐกิจที่ก้าวขึ้นมาใหม่  เพื่อประเทศไทยจะได้ยืนยันในความพร้อม ที่จะให้ความร่วมมืออย่างสร้างสรรค์ในทุกด้าน รวมถึง ได้เปลี่ยนวิสัยทัศน์ซึ่งกันและกัน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภูมิภาคให้เติบโตอย่างยั่งยืน สร้างสรรค์



+++นายกฯ ไทย มีกำหนดการหารือทวิภาคีกับผู้บริหารสูงสุดฮ่องกง  นายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินี ซึ่งเป็นประเทศหนึ่งที่ได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้จนประสบความสำเร็จ และนายกรัฐมนตรีของออสเตรเลีย ซึ่งมีการพบกันหลายครั้งแล้ว 




+++ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีน และนางเผิง ลี่หยวน ภริยา จัดพิธีต้อนรับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนางเมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ อย่างยิ่งใหญ่ ที่มหาศาลาประชาคม กลางกรุงปักกิ่ง เด็กๆต่างโบกธงชาติสหรัฐฯ และธงชาติจีน พร้อมการบรรเลงเพลงชาติของทั้งสองประเทศ หลังจากนี้ ผู้นำสหรัฐฯและผู้นำจีนจะร่วมหารือกันในหลายประเด็น รวมทั้งมีการเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้นำสหรัฐฯด้วย



+++นับเป็นการเดินทางเยือนจีนครั้งแรกของนายทรัมป์ ตั้งแต่เขาก้าวสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯเมื่อเดือน ม.ค. ทั้งนี้ นายสีและนายทรัมป์ พบกันเป็นครั้งที่สาม หลังจากทั้งสองเคยพบกันในการประชุมครั้งแรกที่รีสอร์ทมาร์อาลาโก รัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ เมื่อเดือนเม.ย. และการพบกันนอกรอบการประชุมสุดยอดจี 20 ที่เมืองฮัมบวร์กของเยอรมนี เมื่อเดือนก.ค.



+++กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า เมื่อเช้านี้ ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวในประเทศเมียนมา จำนวน 4 ครั้งติดต่อกัน โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อเวลา 03.29 น. ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 4.1 ลึกจากพื้นดิน 10 กิโลเมตร โดยจุดศูนย์กลางอยู่ที่ประเทศเมียนมา ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 336 กม.



+++จากนั้นเมื่อเวลา 06.36 น.ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 2.1  ลึกจากพื้นดิน 10 กิโลเมตร โดยจุดศูนย์กลางอยู่ที่ประเทศเมียนมา ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 54 กม.



+++สำหรับแผ่นดินไหวในครั้งที่สามเกิดขึ้นเวลา 06.54 น.ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 3.3 แมกนิจูด ลึกจากพื้นดิน 3 กิโลเมตร โดยจุดศูนย์กลางอยู่ที่ประเทศเมียนมา ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ประมาณ 19 กม.



+++เวลา 08.23 น.ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 4.4  ลึกจากพื้นดิน 10 กิโลเมตร โดยจุดศูนย์กลางอยู่ที่ประเทศเมียนมา ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ประมาณ 64 กม. แรงสั่นสะเทือน ส่งผลทำให้ชาวบ้านในพื้นที่บางส่วนได้รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวในครั้งนี้ได้ แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายเกิดขึ้น



แฟ้มภาพ 




 

ข่าวทั้งหมด

X