มีชัย ปัดไม่เกี่ยวข้องการเมือง/เอกชน เสียงแตกมาตรการช้อปช่วยชาติ/ดาวโจนส์ ทุบสถิติสูงสุด

+++การติดตามตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) กล่าวว่า ประเทศสมาชิกตำรวจสากล หรืออิน เตอร์โปลทั้ง 192 ประเทศ ยังไม่มีการแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการพบตัวหรือเบาะแสของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการตามขั้นตอนทั้งหมดแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างทำการรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้กับประเทศสมาชิกเพิ่มเติม เกี่ยวกับการออกหมายน้ำเงิน เพื่อให้ประเทศสมาชิกแจ้งข้อมูลให้กับทางการไทยทันที หากพบตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์หลบหนีไปพักอาศัยในประเทศนั้น ๆ ให้แจ้งข้อมูลให้กับทางการไทยทันที

+++กระแสการตั้งพรรคการเมืองของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และมีปรากฏภาพถ่ายนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เดินทางไปสาธารณรัฐประชาชนจีนกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ และนาย กรพจน์ อัศวินวิจิตร อดีตรัฐมนตรี เมื่อสุดสัปดาห์ นายมีชัย ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่เป็นการเดินทางต่างประเทศตามปกติเท่านั้น และส่วนตัวไม่ได้ รับมอบหมายจากรัฐบาลหรือฝ่ายใดในการประสานงานกับอดีตนักการเมืองเพราะตัวเองไม่ได้มีศักยภาพที่จะดำเนินการดังกล่าวได้

+++ทั้งนี้ หากคนในรัฐบาล จะตั้งพรรคการเมืองสามารถทำได้ในเวลานี้ใช่หรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า ต้องแยกกันระหว่างการลงสมัคร ส.ส. กับการตั้งพรรคการเมือง โดยการลงสมัคร ส.ส. ในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ได้กำหนดชัดเจนว่าหากสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คณะรัฐมนตรี(ครม.) หรือ คสช. จะลงสมัคร ส.ส. ได้ก็ต่อเมื่อได้พ้นจากตำแหน่งเป็นเวลา 90 วันนับแต่วันที่ประกาศใช้รัฐธรรมนูญ แต่ในส่วนการตั้งพรรคการเมืองและการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่กฎหมายรองรับเอาไว้ สามารถดำเนินการดังกล่าวได้

+++ความคืบหน้าในการจัดทำร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว.นายมีชัย กล่าวว่า กรธ.ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว แต่ กรธ.กำลังคิดว่าอาจจะรอให้การทำร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. เสร็จก่อน จากนั้นก็จะได้ส่งร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับไปให้ สนช.พร้อมกันในวันที่ 28 พ.ย.นี้ เพื่อให้ง่ายต่อการพิจารณาในชั้น สนช. เพราะร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับมีเนื้อหาบางส่วนที่เชื่อมโยงกัน นอกจากนี้คิดว่าหากมีความจำเป็นก็อาจต้อง ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ 1 คณะ พิจารณาร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับไปในคราวเดียวกัน เพื่อไม่ให้เกิดการลักลั่นในการพิจารณาเนื้อหาในร่างกฎหมาย

+++ที่ประชุมครม.มีมติกำหนดให้วันที่ 2 ม.ค.2561 เป็นวันหยุดชดเชย เพิ่มอีก 1 วัน แทนวันที่ 31 ธ.ค. 2560 ที่ตรงกับวันอาทิตย์ ซึ่งจะทำให้ในช่วงเทศกาลปีใหม่ มีวันหยุด ติดต่อกัน 4 วัน ประกอบด้วย วันที่ 30 และ 31 ธ.ค. 2560 ต่อด้วยวันที่ 1 และ 2 ม.ค. 2561          นายกฯ แจ้งว่า ในการพิจารณาวันหยุด ต้องดูองค์ประกอบหลายอย่าง หากมีวันหยุดติดต่อกันมาก อาจส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ และในเดือนธ.ค.ก็มีวันหยุดราชการหลายวันอยู่แล้ว

+++นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ครม. อนุมัติมาตรการช้อปช่วยชาติระหว่างวันที่ 11 พฤศจิกายน ถึง 3 ธันวาคม รวม 23 วัน โดยประชาชนนำค่าใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการในประเทศ นำไปลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาตามที่ใช้จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาทต่อคน ทั้งนี้ ไม่รวมสุรา ไวน์ ยาสูบ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เรือและน้ำมัน ค่าโรงแรม ค่าจ้างมัคคุเทศก์ และค่ารักษาพยาบาล

+++กระทรวงการคลัง ประเมินว่ารัฐจะสูญเสียรายได้จากมาตรการภาษีนี้ประมาณ 2,000 ล้านบาท แต่คาดว่าจะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจประมาณ 1 หมื่นล้านบาท

+++ด้านภาคเอชน นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่ามาตรการช้อปช่วยชาติ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ เพราะเมื่อมีมาตรการประชาชนจะชะลอการใช้จ่าย เพื่อรอซื้อสินค้าในช่วงที่มาตรการช้อปช่วยชาติมีผลทำให้กำลังซื้อช่วงก่อนหน้าลดลงมากกว่าปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมาตรการมีระยะเวลานานกำลังซื้อจะยิ่งชะลอ อีกทั้งรัฐบาลทำมาแล้ว 2 ปี หากทำมาตรการบ่อยๆ จะยิ่งไม่มีผลต่อเศรษฐกิจมากนัก

+++นายภูมินทร์ หะรินสุต รองประธานกรรมการสภาหอการค้าไทย กล่าวว่า เห็นด้วยกับมาตรการนี้ เพราะเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภค เนื่องจากปกติเวลาคนไทยช้อปปิ้งมักจะซื้อสินค้ามากกว่าวงเงินที่ตั้งไว้ ขณะเดียวกันจะมีผลกระตุ้นการท่องเที่ยวปลายปีได้ด้วย จึงจะส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมให้ขยายตัวดี

+++นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทยและกรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หากมีมาตรการช้อปช่วยชาติก็จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ทำให้เกิดการใช้จ่าย ถือเป็นเรื่องดีที่จะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ต่อเนื่องคาดว่าเศรษฐกิจปีนี้ขยายตัวร้อยละ 3.7

+++สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด เดือนธันวาคม ลดลง 15 เซนต์ ปิดที่ 57.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 58 เซนต์ ปิดที่ 63.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดในกรอบแคบๆ ดาวโจนส์ ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาล 4 วันติด ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 8.81 จุด ปิดที่ 23,557.23 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 0.49 จุด ปิดที่ 2,590.64 จุด แนสแดค ลดลง 18.65 จุด ปิดที่ 6,767.78 จุด

+++ราคาทองคำ ขยับลงพอสมควร หลังการแข็งค่าของดอลลาร์ ทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 5.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,275.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์

+++วันนี้ นายกฯ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนตามนโยบาย Thailand 4.0 ครั้งที่ 1/2560 ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล (การแต่งกายช่างภาพสวมเสื้อแจคเก็ต)

+++นายวิษณุ  เครืองาม รองนายกฯ ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ครั้งที่ 1/2560 ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

+++กลุ่มวัยรุ่นร่วมกันทำร้ายคู่อริภายในห้องฉุกเฉินของ รพ.กระทุ่มแบน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน คือ นายธีรยุทธ์ เชื้อแพ่ง อายุ 26 ปี นายเนวิน แป้นเงิน อายุ 24 ปี และนาย สุรเชษฐ์ อนันต์ชัยศิลป์ อายุ 26 ปี อีกทั้งมีการยิงปืนขึ้นฟ้าข่มขู่ที่ถนนด้านหน้าโรงพยาบาล เกิดเหตุขึ้นเมื่อคืนวันที่ 5 พ.ย. พล.ต.อ.สมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.(ปป) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่จับกุมตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี เบื้องต้นจับได้ 7 คน แบ่งเป็นตามหมายจับ 5 คน คือ 1.นายชาคริต (เฟิร์ส) นกขำดี อายุ 18 ปี 2.นายกรญวัฒฐ์ (เด่น) บุญชู อายุ 36 ปี 3.นายณัฐพร (ลิฟท์) รัตนบุรี อายุ 30 ปี 4.นายวาทิต (มิก) ประวิรัตน์ อายุ 27 ปี 5.นายแดง แท่งทอง อายุ 28 ปี โดย 4 ใน 5 มีคดีต่างๆ ติดตัว ทั้งหมดถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันบุกรุกใช้กำลังประทุษร้าย มีอาวุธหรือโดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปในเวลากลางคืน, เป็นเหตุให้ได้อันตรายแก่กายหรือจิตใจ และร่วมกันพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าร่วมกันก่อเหตุภายในห้องฉุกเฉินของ รพ.กระทุ่มแบนจริง

+++มีผู้ต้องหาอีก 2 คน เข้ามอบตัวที่ สภ.กระทุ่มแบน คือ นายอนุรักษ์ หรืออาร์ม พุฒศิริ อายุ 31 ปี ผู้ขับรถยนต์และใช้ปืนยิงขึ้นฟ้าจำนวน 4 นัด ที่ถนนหน้าโรงพยาบาลแล้วหลบหนีไปกับนายธิติพงศ์ สุขสวัสดิ์ อายุ 40 ปี ผู้นั่งโดยสารฝั่งด้านหน้าข้างคนขับ และใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันยิงขึ้นฟ้า 11 นัด ทั้งสองต่างมีคดีอื่นๆ ติดตัวเช่นกัน พร้อมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ รพ.กระทุ่มแบน

+++นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ย้ำเตือนทุกโรงพยาบาลถึงเรื่องความปลอดภัย ในช่วงเทศกาลให้มีการเพิ่มเวรยาม 24 ชั่วโมง ตรวจสอบกล้องวงจรปิดให้พร้อมใช้งาน และให้ผู้อำนวยการทุกโรงพยาบาลประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารขอกำลังดูแล สั่งการไปยังกรมการแพทย์ในการพัฒนาห้องฉุกเฉิน ให้เพิ่มการสแกนนิ้ว หรือใช้คียการ์ดในการเปิดเข้าห้องฉุกเฉินคนนอกไม่สามารถเข้าไปได้

แฟ้มภาพ