ที่ีประชุมคสช.หารือ ปัญหาขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว เร่งพิสูจน์อัตตลักษณ์ 22จว.ติดชายทะเล

การประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ ในที่ประชุมมีการพิจารณากำหนดให้ตั้งแต่วันที่30ธันวาคม2560-วันที่2มกราคม2561 รวม4วัน เป็นหยุดช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยคำนึงถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจ เนื่องจากในเดือนธันวาคมมีวันหยุดราชการหลายวัน

นอกจากนี้ที่ประชุมคสช. มีการพิจารณาปรับโอนข้าราชการ2คน คือ  นายวรานนท์ ปีติวรรณ อธิบดีกรมจัดหางาน ไปเป็นรองปลัดกระทรวงแรงงาน และให้นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน กลับมาทำหน้าที่อธิบดีกรมจัดหางานแทน ซึ่งการปรับโอนครั้งนี้จะไม่มีผลต่อเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง

ในที่ประชุมยังมีการพิจารณาเรื่องการพิสูจน์ตัวบุคคลแรงงานต่างด้าว โดยก่อนหน้านี้ได้พิสูจน์ตัวบุคคลของแรงงานต่างด้าวมาแล้วระยะหนึ่ง แต่ยังไม่ชัดเจน ซึ่งคสช.ได้นำข้อแนะนำจากสหภาพบุโรป ที่เสนอว่า การเก็บอัตลักษณ์แรงงานต่างด้าว โดยเฉพาะแรงงานภาคประมงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเก็บรายละเอียดมากกว่าลายนิ้วมือและใบหน้า เพราะลายนิ้วของแรงงานภาคประมงค่อนข้างเลือนลาง โอกาสการพิสูจน์บุคคลอาจมีความคลาดเคลื่อนได้ จึงเสนอใช้วิธีแสกนม่านตาเพิ่มเติมเข้ามา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการพิสูจน์ตัวบุคคล และป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริตสวมรายชื่อบุคคลอื่นด้วย โดยตั้งงบสำหรับการจัดซื้อเครื่องแสกนม่านตาไว้ 120 ล้านบาท  แต่ยังไม่ได้มีการอนุมัติงบประมาณดังกล่าว เนื่องจากจะต้องรอคณะกรรมการ พิจารณาการเก็บข้อมูลพิสูจน์ตัวบุคคลของแรงงานต่างด้าว ที่มีพลเอกอยุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน พิจารณาก่อน

การจะต้องพิสูจน์อัตลักษณ์ลายนิ้วมือและใบหน้าของแรงงานต่างด้าวภาคประมงและโรงงานแปรรูปสัตว์น้ำ ในพื้นที่22จังหวัดที่ติดกับทะเล  เช่นจังหวัด กระบี่ ประจวบคีรีขันธ์ ตรัง พังงา สตูล ให้แล้วเสร็จภายในวันที่31มีนาคม2561