ผู้นำสหรัฐฯจะใช้มาตรการทางทหารกดดันเกาหลีเหนือให้ยอมเจรจาเพื่อคลี่คลายวิกฤตินิวเคลียร์

ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯและประธานาธิบดีมุน แจอินของเกาหลีใต้ได้แถลงข่าวร่วมหลังการประชุมกันในทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ในวันนี้ ช่วงท้ายๆของการแถลง เปิดโอกาสให้นักข่าวซักถามในประเด็นต่างๆ เมื่อถูกถามว่าเขาเห็นความคืบหน้าในการคลี่คลายปัญหาเกาหลีเนือบ้างหรือยัง นายทรัมป์ตอบว่าสหรัฐฯได้เห็นความคืบหน้าในหลายๆเรื่อง แต่อีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งชี้ว่าสหรัฐฯเอาจริงเอาจังในการแก้ไขปัญหานี้คือการส่งเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดใหญ่ที่สุดในโลกรวม 3 ลำและเรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์ลำหนึ่งแล่นเข้ามายังคาบสมุทรเกาหลี โดยเจ้าหน้าที่ทหารสหรัฐฯเปิดเผยก่อนการแถลงข่าวในครั้งนี้ว่าเรือบรรทุกเครื่องบินทั้ง 3 ลำของสหรัฐฯจะร่วมการซ้อมทางเรือครั้งใหญ่ทางตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกในอีก 2-3 วันนี้

นายทรัมป์กล่าวว่าสหรัฐฯหวังพึ่งพระเจ้าว่าจะทรงมีคำบัญชาว่าสหรัฐฯไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการทางทหารเพื่อคลี่คลายปัญหาวิกฤติบนคาบสมุทรเกาหลี เขาหวังว่าพระเจ้าจะดลใจให้เกาหลีเหนือยอมเข้าสู่โต๊ะเจรจา ซึ่งน่าจะเป็นทางออกที่เหมาะสมและจะส่งผลดีต่อพลเมืองเกาหลีเหนือ นายทรัมป์กล่าวว่าเขามองเห็นความเคลื่อนไหวบางอย่าง แต่รอประเมินสถานการณ์ให้ชัดเจนกว่านี้ก่อน เมื่อผู้สื่อข่าวตั้งคำถามถึงนายมุนเรื่องดุลภาพที่เปราะบางของเกาหลีใต้ ระหว่างสหรัฐฯกับจีน นายทรัมป์พูดสอดขึ้นมาว่า ที่ผ่านมาประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน พยายามหาทางช่วยคลี่คลายปัญหาเกาหลีเหนือมาโดยตลอด ถ้าจีนและรัสเซียร่วมมือกับสหรัฐฯ ปัญหานี้ย่อมจะแก้ไขได้สำเร็จในเร็วๆนี้ ด้านนายมุน กล่าวว่าความร่วมมือจากสหรัฐฯและจีนถือว่ามีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนไปสู่การยุติโครงการนิวเคลียร์เกาหลีเหนืออย่างถาวร/16.21 น.