สรรพากรพอใจเก็บภาษีเกินเป้าหมาย/เกษตรกรยางพาราเรียกร้องปลดผู้ว่าการ

นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยภาพรวมการจัดเก็บภาษีในเดือนตุลาคม 2560 ซึ่งเป็นเดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 อยู่ที่ 1 แสนกว่าล้านบาทสูงกว่าเป้าหมายประมาณ 700 ล้านบาท โดยการจัดเก็บภาษี เกินเป้าหมายทั้งภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) และ ภาษีเงินได้นิติบุคคล

สำหรับการแก้ไขปัญหาดอกเบี้ยออมทรัพย์ที่ได้รับยกเว้น 2 หมื่นบาทแรกนั้น ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้สั่งห้ามธนาคารพาณิชย์ปิดบัญชีลูกค้าเมื่อดอกเบี้ยใกล้ครบ 2 หมื่นบาท และไปเปิดบัญชีเงินฝากใหม่ เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก รวมทั้งยังได้ให้ธนาคารพาณิชย์ส่งข้อมูลดอกเบี้ยที่ได้รับการยกเว้นภาษีเป็นรายบุคคล จากเดิมที่ส่งมาเป็นยอดรวมดอกเบี้ยภาษีที่ได้รับการยกเว้นเท่านั้น

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (ครศ.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการได้ขยายระยะเวลาการเชิญชวนนักลงทุนเทคโนโลยีขั้นสูงจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในไทย ซึ่งตั้งเป้าไว้ 30 ราย ออกไปจากสิ้นปี 2560 เป็นเดือนมีนาคม 2561 เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากยังรอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อีอีซี ที่คาดว่าจะผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ภายในปีนี้

สภาเครือข่ายยางพาราและสถาบันเกษตรกรยางพาราแห่งประเทศไทย (สยยท.) ทั่วประเทศและเกษตรกรสวนยางจะรวมตัวกันที่สำนักงานการยางแห่งประเทศไทย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อลงชื่อเรียกร้องให้ปลดนายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) และ พล.อ. ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข ประธานบอร์ด และคณะออกจากตำแหน่งทั้งหมดเนื่องจากการบริหารงานล้มเหลว ทำราคายางตกต่ำ

ส่วนสภาธุรกิจตลาดทุนไทยในวันนี้จะมีการแถลงดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและดัชนีคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของเดือนพฤศจิกายน ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจหลักฐาน คดีที่พนักงานอัยการคดีอาญา7 เป็นโจทก์ฟ้องนายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศคนที่1 เป็นจำเลย ฐานแจ้งความเท็จ กรณีเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2546 เข้าแจ้งความอันเป็นเท็จว่า พล.ต.ต.ประเสริฐ พิทักษ์ธรรม ผบก.สรรพาวุธ สำนักงานส่งกำลังบำรุง สตช. (ขณะนั้น) และ พล.อ.ทศรฐ เมืองอ่ำ ผอ.องค์การทหารผ่านศึก (อผศ.) ร่วมกันทุจริตในการจัดซื้อเสื้อเกราะอ่อนป้องกันกระสุน จำนวน 2,000 ตัว ราคาตัวละ 16,000 บาท รวม 32 ล้านบาท ทำให้ทั้ง 2 คนได้รับความเสียหาย

ศาลนัดสอบคำให้การจำเลย คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ4  เป็นโจทก์ฟ้องนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด, น.ส.ศรัณยา มานหมัด อดีตผู้ช่วยผู้จัดการ และรองผู้จัดการใหญ่สหกรณ์ฯ, นายลภัส  โสมคำ อดีตเลขานุการกรรมการสหกรณ์ฯ และนายกฤษฎา มีบุญมาก อดีตหัวหน้าฝ่ายสินเชื่อ สหกรณ์ฯ เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์นายจ้าง, ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิ์ปลอม กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 19 ตุลาคม 2550-1 มีนาคม 2555 จำเลยทั้ง4 ได้ร่วมกันแบ่งหน้าที่กันทำเป็นขบวนการ โดยลักเอาเงินของสหกรณ์ฯ 10,812,663,995.29 บาทไปโดยทุจริต

โดยจะมีการเบิกตัวนายศุภชัย จากเรือนจำบางขวาง

ส่วนที่กองบังคับการปราบปรามในวันนี้ พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเฉิด รรท.ผบก.ป. จะแถลงข่าวจับกุมนางพานิตย์ มะลิทอง, น.ส.สุมาลี เลิศวิลัย และนายประจวบ สุนาพจน์ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา รัชดา ตามปฏิบัติการยุทธการฟ้าสางเด็ดปีกสาริกา ซึ่งเป็นปฏิบัติร่วมระหว่างชุดปฏิบัติการพิเศษกองปราบปรามกอง 2 กับชุดปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ตามที่พบว่าผู้ต้องหาประกาศขายวัตถุมงคลประเภทสาริกานำเข้าจากต่างประเทศ และหลอกลวงว่าขลังมีโชคลาภมีผู้เสียหายนับ 100 ราย

ส่วนที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลเมื่อวานนี้ พล.ต.ต.ฤชากร จรเจวุฒิ รอง ผบช.น.แถลงจับกุม นาย บ. (ไม่ประสงค์ออกนาม) นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง สาขาปฐพีวิทยา คณะเกษตร อายุ 20 ปี มีพฤติการณ์จำหน่ายยาเสพติดออนไลน์ ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน โดยมีของกลางคือเมล็ดกัญชาสายพันธุ์ต่างประเทศ และอุปกรณ์เพาะปลูก เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาผลิต นำเข้า หรือส่งออกยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) โดยผิดกฎหมายและมียาเสพติดประเภท 5 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ซึ่งผู้ต้องหาลักลอบขายเมล็ดกัญชาผ่านทางช่องทางออนไลน์ ในเพจเฟซบุ๊ก ซึ่งเจ้าหน้าที่จะขยายผลต่อไปยังกลุ่มลูกค้าต่อไป

ในวันนี้ เจ้าหน้าที่สถานฑูตเมียนมาร์ พร้อมทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม และครอบครัวสาวใช้เมียนมาที่ถูกระบุว่าฆ่าตัวตาย แต่ครอบครัวไม่เชื่อและต้องการให้ชันสูตรศพอย่างละเอียด โดยจะมาติดตามความคืบหน้าคดี ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ

ยังต้องติดตามคดีฆาตกรรมน.ส.จริยา ศรีศักดิ์ หรือน้ำ อายุ 16 ปี ซึ่งน.ส.กฤษณา สุวรรณพิทักษ์ หรือโมนา อายุ 45 ปี สารภาพว่าเป็นผู้ทำร้ายร่างกายน.ส.จริยาจนเสียชีวิตแล้วอำพรางศพด้วยการนำไปฝังในบ้านของแม่ที่จังหวัดเพชรบุรี เป็นเวลานานถึง 5 ปีแล้ว พร้อมซัดทอดผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน โดยในการค้นหาศพพบโครงกระดูกตามที่รับสารภาพ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตายเพียงข้อหาเดียวก่อน ส่วนข้อหาเจตนาฆ่าผู้อื่น และซ่อนเร้นอำพรางศพยังอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมขยายผลดำเนินคดีผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มเติม

 ..