นักวิชาการ ใช้หลักคำสอนหลวงพ่อปัญญาเป็นแนวทางการดำเนินชีวิต

หลักแนวทางคำสอนของพระพรหมมังคลาจารย์ (ปัญญานันทมหาเถระ) ดร. รุ่ง แก้วแดง ประธานมูลนิธิสุข-แก้ว แก้วแดง อดีตเลขาธิการสภาการศึกษา ผู้ช่วยรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวในการอภิปรายธรรม เรื่อง "ปัญญานันทมหาเถระ แม่ทัพธรรม แม่ทัพโลก" ว่า พระธรรมโกศาจารย์ หรือท่านพุทธทาสภิกขุ ยกหลวงพ่อปัญญา ให้เป็นแม่ทัพธรรม แม่ทัพโลก คำว่าแม่ทัพธรรม ในที่นี้คือเป็นผู้นำในการสอนธรรมะ ส่วนคำว่า แม่ทัพโลก ตีความได้ 2 ความหมาย คือ โลกมนุษย์ และโลกที่หมายถึงร่างกายของเรา ซึ่งโลกที่เป็นร่างกาย จะเรียนรู้ได้ไม่รู้จบ เพราะอารมณ์ จิตใจ จะเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ไม่สามารถประเมินได้

หลวงพ่อปัญญา เป็นผู้ที่มีอัจฉริยะภาพในด้านการถ่ายทอดคำสอน มีความเป็นผู้นำที่โดดเด่น ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา ยังไม่มีพระสงฆ์ผู้ใดสามารถแสดงธรรมได้ครบเครื่องเท่า เป็นพระผู้นำในการเปลี่ยนแปลงสิ่งปฏิบัติที่ผิดเพี้ยนไปจากพระไตรปิฎก โดยไม่หวาดหวั่นต่อการต่อต้าน และมองว่าศาสนาพุทธมีการเผยแพร่หลักธรรมคำสอนที่อ่อนแอกว่าศาสนาอื่น โดยเฉพาะศาสนาอิสลาม ความใกล้ชิดศาสนาออกห่างไปเรื่อยๆ และขณะนี้ประเทศไทยไม่สามารถแยกแยะศาสนาพุทธกับศาสนาพราหมณ์ออกจากกันได้ หลวงพ่อปัญญา มีความกล้าหาญอย่างแน่วแน่และรุนแรง ในการนำคำสอนของพระไตรปิฎกที่ถูกต้องกลับมาใช้ แม้จะถูกต่อต้าน และพยายามทำวัดชลประทานให้แตกต่างจากวัดอื่น ไม่มีพิธีกรรมใดๆ ทั้งสิ้น เป็นวัดแห่งเดียวที่มีโบสถ์หันหน้าไปทางทิศตะวันตก และเป็นพระที่จะไม่เทศน์ด้วยภาษาบาลี แต่จะเทศน์ด้วยภาษาไทยที่สามารถเข้าใจได้ง่าย แต่ลึกซึ้ง มีการใช้เทคโนโลยีในการเผยแพร่คำสอน เป็นพระสงฆ์รูปแรกที่เทศน์ผ่านสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย

นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เล่าว่า ในช่วงที่เข้ามารับราชการ มีโอกาสได้อ่านหนังสือ ตุลาการริกธรรม ของพระพุทธทาสภิกขุ ซึ่งเป็นสหายธรรมของหลวงพ่อปัญญา หลังจากนั้นนำมาปรับปรุงใหม่กลายเป็นคู่มือมนุษย์ ที่ไม่มีโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยแห่งใดทั้งในและต่างประเทศสอน โดยเน้นเรื่องการอย่าเห็นผิด หรือ อย่ายึดสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นอัตตา หรือตัวตน

หลวงพ่อปัญญา ได้รับฉายาจากพุทธทาสภิกขุ ว่า เป็นแม่ทัพธรรม แม่ทัพโลก ตลอดชีวิตการทำงาน ทำเพื่อศาสนาและพระรัตนตรัย ในฐานะแม่ทัพโลก ได้ต่อสู้กับวัตถุนิยมอย่างสุดโต่ง ที่เป็นสาเหตุของการต่อสู้ฆ่าฟัน แย่งชิงกันบนโลกใบนี้ รวมทั้งต่อสู้กับไสยศาสตร์ หลวงพ่อปัญญา เคยกล่าวไว้ว่า บ้านจะอยู่ร่มเย็นเป็นสุข ได้จากศีลธรรมของคนในบ้าน ไม่ใช่ศาลเจ้า ศาลพระภูมิ และมองว่าการก่อสร้างโบสถ์หลังใหญ่ ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ เป็นการหากินมากกว่า พระสงฆ์ควรช่วยกันเผยแพร่คำสอนทางศาสนา

สำหรับบทบาทการเป็นแม่ทัพธรรม หลวงพ่อปัญญา ทำได้ลึกซึ้งมาก สามารถนำพาลูกศิษย์ชาวพุทธให้เติบโตขึ้นจากศีลธรรม พ้นจากอวิชชา ตัณหา อุปาทาน

ผู้สื่อข่าว:ปภาดา พูลสุข