ตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการกองปราบปรามจับกุมนายอุสมาน อาดัม อายุ 19 ปี ชาวปากีสถาน เป็นผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ผู้โดยสารบนรถไฟสายกรุงเทพฯ-สุไหงโกลก ได้ที่จังหวัดปทุมธานี ในวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ ได้นำ นายอุสมาน มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่เมื่อทำแผนเสร็จสิ้น นายอุสมาน กล่าวว่าไม่ได้เป็นผู้วางยาผู้โดยสาร และปฎิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับคดีนี้ ส่วนของกลางที่เป็นโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ก็ไปซื้อมาจากตลาดนัดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แล้วมาขึ้นรถไฟที่สถานีหัวลำโพง ไม่ได้รับมาจากนายอับดุลเลาะห์ สาหะ ที่บอกว่าเป็นซึ่งเดินทางมาด้วยกัน ถือเป็นการกลับคำให้การจากเมื่อวานนี้ที่ยอมรับข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้ดูต้นทางให้นายอับดุลเลาะห์ลงมือก่อเหตุระหว่างผู้โดยสารนอนหลับ แล้วยกโทรศัพท์มือถือให้ 2 เครื่อง จากนั้นนายอุสมานก็หลบหนีไปหลบซ่อนอยู่ที่ตู้อื่นในขบวน ก่อนจะลงที่จ.ยะลา เพื่อไปเอาเสื้อผ้า
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังเชื่อมั่นในหลักฐานที่มีอยู่ว่านายอุสมาน มีส่วนรู้เห็นและจะเร่งสืบสวนคดี เพื่อตามจับกุมนายอับดุลเลาะห์ ต่อไป โดยศาลได้อนุมัติหมายจับนายอับดุลเลาะห์แล้ว
ขณะที่นายวันชัย จันทร สารวัตรงานสถานีกรุงเทพฯ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งพบว่าคนร้ายแฝงตัวมาในลักษณะผู้โดยสาร ทำให้การป้องกันทำได้ยาก ซึ่งปกติประตูของรถไฟในแต่ละตู้จะปิดตั้งแต่เวลา 22.00-05.00 น. เพื่อความปลอดภัย เว้นแต่เมื่อถึงสถานีก็จะเปิดประตูให้ โดยต่อไปอาจมีมาตรการให้บอกชื่อ-นามสกุล และเลขประจำตัวประชาชน ก่อนจะซื้อตั๋ว เพื่อตรวจสอบให้ชัดเจน แต่ด้วยการซื้อตั๋วรถไฟที่สามารถซื้อได้หลายช่องทาง อาจทำให้มาตรการนี้มีความหละหลวม ส่วนปัจจุบันผู้โดยสารไม่ลดลงจากเดิม และเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งสอบสวนคดีต่อไป
...ผสข.ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร รายงานครับ