+++ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เริ่มต้นวันนี้ด้วยการเยือนเอเชียหลายประเทศ 12 วันระหว่างวันที่ 3-14 พ.ย.เริ่มจากญี่ปุ่น,เกาหลีใต้,ประเทศจีน,เวียดนามและฟิลิปปินส์ ตามลำดับ แหล่งข่าวที่ปรึกษาระดับสูงของทำเนียบขาวสหรัฐฯ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเตรียมแผนการเยือนเอเชียของประธานาธิบดีทรัมป์ กังวลว่า นายทรัมป์ จะไม่มีสมาธิในการเจรจา เรื่องสำคัญๆกับผู้นำประเทศต่างๆ เพราะกังวลเรื่องที่ อัยการพิเศษของสหรัฐฯเร่งสอบสวนคดีรัสเซียเข้าไปก้าวก่ายกับการเลือกตั้งสหรัฐฯเมื่อปีที่แล้ว
+++คณะที่ปรึกษาของผู้นำสหรัฐฯหวังว่าเมื่อเริ่มต้นเดินทางแล้ว หัวข้อและสภาพแวดล้อมต่างๆที่เปลี่ยนไป รวมถึงเขตเวลาที่แตกต่างกันและตารางประชุมที่แน่นขนัดแต่ละวันจะช่วยให้ประธานาธิบดีทรัมป์สนใจอยู่กับเอกสารต่างๆที่อยู่ในมือมากกว่าจะสนใจเรื่องปัญหาการเมืองในประเทศ โดยเฉพาะคดีรัสเซียเข้าไปวุ่นกับการเมืองสหรัฐฯ นอกจากนี้ คนใกล้ชิดของนายทรัมป์หวั่นเกรงว่า การทวีตข้อความของนายทรัมป์ในโอกาสเยือนเอเชียที่มีปัญหาตึงเครียดในเรื่องอาวุธนิวเคลียร์อาจจะไม่ใช่โอกาสที่เหมาะสมและอาจจะกระทบต่อการเจรจาในประเด็นปัญหาต่างๆที่เปราะบาง
+++ก่อนการประชุมสุดยอดของสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(อาเซียน) ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์ เรียกร้องให้สมาชิกกลุ่มอาเซียน เพิ่มความร่วมมือกันมากขึ้นในการปราบปรามผู้ก่อการร้าย เป็นประเด็นหลักกับผู้นำอาเซียนและหุ้นส่วนระดับภูมิภาค รวมถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ระหว่างการประชุมสุดยอดของกลุ่มอาเซียนในกรุงมะนิลาในวันที่ 13 พฤศจิกายนนี้ นอกจากนั้น ระหว่างการประชุมครั้งนี้ รัฐบาลฟิลิปปินส์จะขอให้มีการเพิ่มความร่วมมือให้มากขึ้นระหว่างพันธมิตร รวมถึงเพิ่มการแลกเปลี่ยนข่าวกรอง การฝึกอบรมและการจัดหาอาวุธและวัสดุอุปกรณ์เพื่อปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย นอกจากนั้นที่ประชุมจะหารือกันเรื่องปัญหาเกาหลีเหนือ,ปัญหาอาณาเขตพิพาทในทะเลจีนใต้และเรื่องข้อตกลงการค้าระดับภูมิภาค
+++การดำเนินคดีกับนายเซย์ฟุลโล ไซพอฟ พลเมืองชาวอุซเบควัย 29 ปี ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดทางอาญาฐานขับรถกระบะพุ่งชนคนบนทางเท้าและนักปั่นจักรยานบนเส้นทางปั่นจักรยานในนครนิวยอร์กเมื่อบ่ายวันอังคาร ทำให้มีคนเสียชีวิต 8 ศพ บาดเจ็บ 12 คน ไม่สำนึกผิดและฝักใฝ่ต่อกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)แรงกล้าถึงขนาดที่เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯติดธงดำของกลุ่มไอเอสไว้เหนือห้องพักของโรงพยาบาลในย่านแมนฮัตตันโลเวอร์ที่เขาเข้ารักษาอาการบาดเจ็บ คนร้ายยอมรับกับพนักงานสอบสวนว่า วางแผนเรื่องนี้เมื่อปีที่แล้วและตัดสินใจเมื่อ 2 เดือนก่อนว่าจะลงมือก่อเหตุ มีความศรัทธาในอุดมการณ์ของกลุ่มไอเอส
+++คนร้าย มีคลิปวีดิโอโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มไอเอสราว 90 ชุดและภาพถ่าย 3,800 ใบในโทรศัพท์มือถือ รายละเอียดต่างๆแสดงให้เห็นว่าคนร้ายวางแผนจะขับรถพุ่งชนคนในจุดอื่นๆหลายจุด รวมถึงที่สะพานบรูคลิน หลังขับรถกระบะที่เช่ามาพุ่งชนคนในช่องจราจรสำหรับรถจักรยานในย่านโลเวอร์ แมนฮัตตัน เพื่อสังหารคนให้เสียชีวิตให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ คนร้ายเลือกที่จะก่อเหตุรุนแรงในนครนิวยอร์กในวันฮาโลวีน 31 ตุลาคมเนื่องจากเชื่อว่า จะมีผู้คนจำนวนมากเดินทางตามท้องถนนในวันหยุดราชการ
+++รอยเตอร์ รายงานอ้างรายงานของสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติในนครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ว่า ศาลอิรัก ไม่มีอำนาจไต่สวนคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ในช่วงที่มีการสู้รบในเมืองโมซุล ถือว่าเป็นคดีอาญาระหว่างประเทศ รัฐบาลอิรัก ควรเสนอคดีให้ศาลที่มีอำนาจคือศาลอาญาระหว่างประเทศ(ไอซีซี)ในกรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ พิจารณาต่อไป ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมของอิรักรวมถึงพนักงานอัยการ พนักงานสอบสวนและศาลไม่มีศักยภาพที่จะสอบสวน แจ้งข้อหาและไต่สวนคนที่ถูกแจ้งข้อหาทางอาญาดังกล่าวด้วย นอกจากนี้กฏหมายอิรักไม่ได้ให้หลักประกันอย่างเพียงพอว่าจะดำเนินกระบวนการพิจารณาอย่างถูกต้องและเป็นธรรม เพื่อช่วยให้ประชาคมระหว่างประเทศมั่นใจว่าอิรักเอาจริงเอาจังในการนำตัวผู้กระทำผิดทางอาญาระหว่างประเทศไปดำเนินคดีตามกฏหมาย ซึ่งนับว่าเป็นส่วนสำคัญในการฟื้นฟูความเชื่อมั่นในระบบยุติธรรมและความปรองดองของประชาชนในประเทศ
+++อยาตอลลาห์ อาลี คาห์เมนี ผู้นำสูงสุดของสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน กล่าวต่อคณาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัย ในกรุงเตหะราน ซึ่งมีการถ่ายทอดสดทางทีวีไปทั่วประเทศว่า สหรัฐฯ คือศัตรูหมายเลข 1 ของอิหร่าน และอิหร่าน จะไม่มีวันยอมจำนนต่อแรงกดดันของสหรัฐฯ เกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์กับกลุ่มชาติมหาอำนาจโลก อิหร่านและสหรัฐฯ ตัดความสัมพันธ์ทางการทูต เพียงไม่นานหลังการปฏิวัติอิสลาม เมื่อกลุ่มนักศึกษาอิหร่านหัวรุนแรง ควบคุมชาวอเมริกัน 52 คนเป็นตัวประกันนาน 444 วัน อิหร่านจะฉลองครบรอบการบุกยึดสถานทูตสหรัฐฯในกรุงเตหะราน ในวันเสาร์นี้
+++อาจารย์มหาวิทยาลัยของรัฐทั่วประเทศเคนยา ผละงานประท้วง ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. จนกว่าจะบรรลุข้อตกลง หลังจากรัฐบาลไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงเมื่อเดือน มี.ค. ที่จะปรับขึ้นเงินเดือนและค่าที่พักอาศัย เพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาล ทำให้ชะตากรรมของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยของรัฐ 31 แห่งทั่วประเทศ เลวร้ายลง นับตั้งแต่อาจารย์ยุติการผละงานประท้วงนาน 54 วัน เมื่อเดือน ก.พ. และนับตั้งแต่ตัวแทนคณาจารย์บรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลในเดือน มี.ค ฝ่ายอาจารย์เรียกร้องขอขึ้นเงินเดือนร้อยละ 17.5 และขึ้นเงินค่าที่พักอีกร้อยละ 3.9
CR:CNN