องคมนตรีลงพื้นที่หาดใหญ่ติดตามโครงการบรรเทาอุทกภัยฯกรมชลประทานมั่นใจรับมือได้

02 พฤศจิกายน 2560, 11:41น.


การติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในเขตพื้นที่ จังหวัดสงขลา และจังหวัดสตูล  พล.อ.ธีรชัย นาควานิช องคมนตรี เปิดเผยว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้องคมนตรีติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดสงขลา และโครงการก่อสร้างระบบประปาบ้านผัง 16 พร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดสตูล ด้วยทรงห่วงใยราษฎรในพื้นที่ภาคใต้เนื่องจากในช่วงนี้มีฝนตกชุกหนาแน่นในหลายพื้นที่ของภาคใต้และอาจส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของราษฎร จึงมีพระราชประสงค์ให้ติดตามการดำเนินงานของโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่ ตามที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานแนวทางในการดำเนินงานเพื่อป้องกันปัญหาอุทกภัย  ด้วยมีพระราชปณิธานที่จะทรงสืบสาน รักษา ต่อยอดโครงการต่างๆ ให้บังเกิดความยั่งยืน และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาติ





สำหรับโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัด สงขลา สืบเนื่องจากช่วงเดือนพฤศจิกายน 2531 ได้เกิดอุทกภัยอย่างรุนแรงในพื้นที่ อำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจหลักของภาคใต้สร้างความเสียหายอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2531 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานพระราชดำริ สรุปความว่า "ให้ขุดคลองระบายน้ำขนาดใหญ่ ให้ทำหน้าที่แบ่งน้ำจากคลองอู่ตะเภา หรือช่วยรับน้ำที่ไหลลงมาท่วมตัวอำเภอหาดใหญ่ให้ระบายลงสู่ทะเลสาบสงขลาโดยเร็ว" ดังนั้นในปี 2532 กรมชลประทาน จึงได้ดำเนินการขุดลอกคลองธรรมชาติ จำนวน 4 สาย เพื่อให้สามารถระบายน้ำเร็วขึ้น ต่อมาในปี 2543 เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่สุดของจังหวัดสงขลา สร้างความเสียหายกว่าหมื่นล้านบาท และเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2543 ได้พระราชทานพระราชดำรัส สรุปความว่า "มีน้ำท่วมภาคใต้ โดยเฉพาะที่อำเภอหาดใหญ่ มีความเสียหายหลายพันล้านบาท ซึ่งถ้าได้ทำแผนที่วางไว้ตั้งแต่ปี 2531 ที่ลงทุนไปนั้นจะได้กลับคืนมาหลายเท่าตัวแล้ว" จึงได้ดำเนินการขุดคลองระบายน้ำเพิ่มเติม อีก 7 สาย โดยมีคลองระบายน้ำ ร.1 ความยาว 21.343 เมตร  เป็นคลองระบายน้ำสายหลักในการผันน้ำจากคลองอู่ตะเภา อ้อมเมืองหาดใหญ่สู่ทะเลสาบสงขลาโดยตรง สามารถระบายน้ำได้ 465 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ส่วนอีก 6 สาย เป็นคลองแบ่งน้ำเพื่อช่วยระบายน้ำ และในปี 2553 ได้เกิดน้ำท่วมหาดใหญ่อีกครั้ง





ทั้งนี้กรมชลประทานได้น้อมนำแนวพระราชดำริโดยปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของคลองระบายน้ำ ร.1 และอาคารประกอบ ตามแนวพระราชดำริที่ได้พระราชทานไว้ทำให้ปัจจุบันสามารถบรรเทาปัญหาอุทกภัยในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ และพื้นที่ใกล้เคียงประมาณ  158,000 ไร่ สามารถช่วยระบายน้ำได้เร็วขึ้นประมาณ 1,755 ลูกบาศก์เมตร/วินาที นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งสำรองน้ำจืดเพื่อการเกษตรในฤดูแล้งได้ประมาณ 10.6 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งต่อมาเมื่อปี 2559 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อคลองระบายน้ำสายที่ 1 (ร.1) โครงการบรรเทาอุทกภัยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ว่า คลองภูมินาถดำริ ซึ่งมีความหมายคือ คลองระบายน้ำที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชดำริขุดขึ้น 





ส่วนการรับมือสถานการณ์น้ำในขณะนี้ ได้รับการยืนยันจากกรมชลประทานว่าสามารถรับมือได้ เพราะได้มีการเตรียมการพร่อง น้ำ 3 อ่างในพื้นที่ ซึ่งเพื่อให้อยู่ในเกณฑ์ ที่รับน้ำได้ พร้อมทั้งติดตั้งเครื่องสูบน้ำทุกจุดที่มีความเสี่ยงภัย หรือจุดที่มีน้ำท่วมซ้ำซาก  โดยใช้คลองระบายน้ำร. 1 เป็นตัวรับน้ำ ก่อนผลักดันออกทะเลสาบสงขลา พร้อมเตรียมแผนฉุกเฉินรองรับไว้ด้วย ขณะเดียวกันก็มีการต่อยอดโครงการในพระราชดำริ โดยขยายสองฝั่งคลองภูมินาถดำริ ไว้รองรับหากน้ำมีปริมาณมากโดยสามารถ รับปริมาณน้ำได้ถึง 1,200 ลูกบาศก์เมตร ต่อวินาที โดยโครงการดังกล่าวจะแล้วเสร็จในปี 2562





ปิยะธิดา เพชรดี ผสข.

ข่าวทั้งหมด

X