อธิบดีกรมการจัดหางาน ยันทำงานหนัก โยกย้ายเป็นเรื่องปกติ/รมว.เกษตรหารือนายกฯคาดเรื่องน้ำ/ ม.44 ย้ายอธิบดีกรมป่าไม้พ้นตำแหน่ง

+++กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง (กอร.รส.) พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (ผช.ผบ.ทบ.) ตรวจความเรียบร้อยพื้นที่การจัดนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มอบหมายให้มาดูความพร้อมทั้งเรื่องการอำนวยความสะดวก และการรักษาความปลอดภัย ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายนเป็นต้นไป ต้องดูสถิติจำนวนประชาชนว่ามามากน้อยแค่ไหน จากนั้นเราจะทำข้อมูลเสนอให้รัฐบาลพิจารณา 

+++เสียงวิจารณ์ปัญหาความไม่เรียบร้อยในการอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ จ.นนทบุรีและชลบุรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ขณะนี้ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทยรายงานว่าได้ลงนามตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้วได้มอบนโยบายไปว่าขอให้คณะกรรมการฯ ตรวจสอบดูข้อเท็จจริงให้ครบถ้วนทั้งจากผู้ว่าราชการจังหวัด รวมทั้งกลุ่มผู้ที่ไม่ได้รับความสะดวกในวันงานดังกล่าวว่าเกิดอะไรขึ้น มีการร้องเรียนหรือไม่พอใจในประเด็นอะไร ขอให้ตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดทั้งหมด เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

+++พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ในส่วนของกระแสข่าวที่ว่ามีงบประมาณลงไปที่ จ.ชลบุรี 20 ล้านบาท ยืนยันอีกครั้งว่าไม่มีการจัดงบประมาณใดๆ ลงไปในพื้นที่อย่างแน่นอน เพราะการก่อสร้างพระเมรุมาศจำลองรวมทั้งพระจิตกาธาน เป็นหน้าที่ของส่วนกลาง ผู้ว่าฯ จ.ชลบุรีจึงไม่มีหน้าที่ในการจัดซื้อจัดจ้างใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนที่ระบุว่าผู้ว่าฯชลบุรี มาสาย จากการตรวจสอบทราบว่าผู้ว่าฯ เข้าพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเช้า และที่ระบุว่ามีการปล่อยให้ข้าราชการวางดอกไม้จันทน์ก่อนประชาชน เป็นขั้นตอนที่ปฏิบัติเหมือนกันทุกจังหวัด โดยจะให้ผู้ว่าฯ วางก่อน จากนั้นตามด้วยพระสงฆ์และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่อีกประมาณ 2 แถว จากนั้นก็จะเปิดให้ประชาชนวางดอกไม้จันทน์ โดยจะมีข้าราชการร่วมวางดอกไม้จันทน์ไปพร้อมกับประชาชนเลย

+++กรณีที่ จ.นนทบุรี  คณะกรรมการฯ ของจังหวัดได้คัดเลือกวัดบัวขวัญ พระอารามหลวง เป็นสถานที่วางดอกไม้จันทน์ ซึ่งสถานที่อาจจะมีปัญหาในเรื่องการอำนวยความสะดวกประชาชนไปบ้าง ส่วนเรื่องปัญหาการแซงคิว เชื่อว่า อยู่ที่การบริหารจัดการ ต้องยอมรับว่าประชาชนเดินทางไปวางดอกไม้จันทน์กันเป็นจำนวนมาก จนอาจทำให้เกิดปัญหาการจัดระเบียบไปบ้าง ซึ่งน่าจะเป็นเกือบทุกที่ก็ต้องขออภัยประชาชนด้วย

+++เรื่องสภาพอากาศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า จากการติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่าพายุดีเปรสชัน บริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง จะเคลื่อนตัวผ่านปลายแหลมญวนไปทางอ่าวไทย ส่งผลให้พื้นที่ภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ในช่วงวันที่ 1-3 พ.ย.อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและคลื่นลมแรง ได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) ประสานจังหวัดภาคใต้ และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวม 15 จังหวัด เตรียมพร้อมรับมือ ป้องกัน และแก้ไขปัญหาอุทกภัยอย่างเป็นระบบ โดยเตรียมพร้อมรับมืออุทกภัยเชิงรุก มุ่งเน้นการเฝ้าระวังและแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า เตรียมพร้อมการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุ เร่งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ภัย

+++เมื่อช่วงเย็น พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เดินทางเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยไม่มีกำหนดล่วงหน้า ซึ่งใช้เวลาหารือเพียง 18 นาที ก่อนที่นายกฯจะเดินทางกลับออกจากทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 17.28 น.

+++พล.อ.ฉัตรชัย ยังคงหารือต่อกับ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี คาดว่าเป็นการหารือเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วม และการเตรียมการลงพื้นที่ภาคใต้ในวันที่ 3 พ.ย.นี้ โดยนายกฯมีกำหนดเดินทางลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อเดินทางไปตรวจเยี่ยมศูนย์ประสานการพัฒนาลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ รวมทั้งหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

+++ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรีเรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือน มีใจความดังนี้  มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายชลธิศ สุรัสวดี ข้าราชการพลเรือนสามัญ พ้นจากตําแหน่ง อธิบดีกรมป่าไม้ (นักบริหารระดับสูง) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่ง ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2560 ประกาศ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2560

+++ ภายหลังจากที่มีคำสั่งมาตรา 44 ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ปลดนายวรานนท์ ปีติวรรณ พ้นจากอธิบดีกรมการจัดหางาน มาดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงแรงงาน และให้นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน มาเป็นอธิบดีกรมการจัดหางานแทน คาดว่าอาจมีการหารือถึงประเด็นปัญหาเกี่ยวกับการตรวจพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติคือ กัมพูชา ลาว และเมียนมา ที่มีความล่าช้า นายกฯ ได้เรียก พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า มีการหารือประมาณ 15 นาที ก่อนที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จะเดินทางออกจากทำเนียบในเวลา 16.45 น.

+++นายวรานนท์  ยืนยันว่า การทำงานช่วง 8 เดือน โดยเฉพาะการพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าวไม่ล่าช้าเหมือนที่คนวิพากษ์วิจารณ์ เป็นเรื่องปกติของราชการ และคงไม่ต้องฝากอธิบดีคนใหม่สานต่องานอะไรเป็นพิเศษ เพราะ รมว.แรงงาน เน้นการทำงานเป็นทีมเดียวกัน มีเป้าหมายชัดเจน จากนี้ไปคงจะได้พักบ้าง เพราะการทำงานในตำแหน่งอธิบดีกรมการจัดหางานเป็นงานหนัก

+++ภายหลังการประชุมรับฟังความเห็นแผนปฏิรูปกฎหมาย เป็นวันแรก จากตัวแทน 2 หน่วยงานราชการ คือ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เนื่องจากทั้ง 2 หน่วยงาน มีความเกี่ยวข้องกับแผนการปฏิรูปกฎหมายมากที่สุด  นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย เปิดเผยว่า 2 หน่วยงานมีข้อเสนอเพิ่มเติมให้มีการกำหนดแผนนิติบัญญัติเพื่อให้การตรากฎหมายมีแบบแผนและมีกรอบระยะเวลาชัดเจน ส่วนในวันที่ 2 พฤศจิกายน ก็จะมีการประชุมที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นการเชิญตัวแทนจาก 3 หน่วยงาน คือ สศช. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) สถาบันพระปกเกล้า ซึ่งจะทยอยฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 20 หน่วยงาน พร้อมกันนี้ก็จะฟังความคิดเห็นจากประชาชน 4 ภาค เริ่มในวันที่ 15 พฤศจิกายนเป็นต้นไป

+++นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า หลักของแผนการปฏิรูปกฎหมายคือ การให้มีกลไกการออกกฎหมายเท่าที่จำเป็น พร้อมกับทบทวนกฎหมายที่ผ่านมา ตั้งแต่ก่อนปี 2500 เนื่องจากมีกฎหมายบางฉบับที่ล้าสมัย และเป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตหรือการประกอบอาชีพของประชาชน อาทิ พ.ร.บ.เดินเรือน่านน้ำไทย พ.ศ.2457 หรือในเรื่องของกฎหมายขายฝากที่สร้างความไม่เป็นธรรม เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยกับคนจน เป็นต้น คาดว่า หากมีการประกาศใช้แผนปฏิรูปกฎหมาย มีนาคม 2561 ก็จะให้ระยะเวลาส่วนราชการเตรียมความพร้อมประมาณ 3-6 เดือน   ส่วนกลไกการติดตามให้การปฏิบัติเป็นไปตามแผนจะมีคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายเป็นผู้ติดตาม หากพบว่า ไม่เป็นไปตามแผนก็จะส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและวุฒิสภาตามขั้นตอน

+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย  ปิดตลาดที่1,714.55 จุด ลดลง 6.82จุด มูลค่าซื้อขาย 68,071.14 ล้านบาท

+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียวญี่ปุ่น พุ่งขึ้น 408.47 จุด  ปิดที่ 22,420.08 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2539

+++ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาบ้านและความเชื่อมั่นผู้บริโภค เพิ่มขึ้น 348.52 จุด ปิดที่ 28,594.06 จุด

CR:แฟ้มภาพ สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์