ทิศทางและแนวโน้มของสถานการณ์น้ำมันของโลกในปี 2561 นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย คาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ในระดับ 52-57 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ความต้องการน้ำมันดิบของโลกจะขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 1.4-1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวอยู่ที่ร้อยละ 3.7 และจากการปรับลดกำลังการผลิตตามข้อตกลงของกลุ่มผู้ผลิต OPEC และ Non-OPEC ขณะที่สหรัฐอเมริกา หันกลับมาผลิต Shale Oil เพิ่มขึ้น แต่ต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการกระจายการผลิตไปยังแหล่งใหม่ๆ ทำให้ราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในกรอบแคบๆ
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยที่จะต้องติดตามเช่นการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในยุคดิจิตอล นโยบายการเมืองเศรษฐกิจในซีกโลกตะวันออก และตะวันตก ที่ยังคงมีความผันผวน รวมถึงทิศทางอุตสาหกรรมยานยนต์ในอนาคต ที่จะเน้นการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้า และพลังงานทดแทนมากขึ้น
อย่างไรก็ตามการพัฒนาจะก้าวไกลได้เพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับการสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐ โครงสร้างพื้นฐานด้านการผลิต และส่งถ่ายไฟฟ้า การพัฒนาเทคโนโลยี และพฤติกรรมของผู้บริโภค รวมถึงอุตสาหกรรมต่อเนื่องในการผลิตรถยนต์ สำหรับการปรับตัวของอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ในช่วงที่เทคโนยีกำลังพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด นายสุกฤตย์ กล่าวว่า จะต้องทำให้โรงกลั่นให้แข็งแรงที่สุด หรือ เน้นไปที่การผลิตปิโตรเคมี โดยยืนยันว่า อุตสาหกรรมปิโตรเคมี ยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องต่างจากน้ำมัน
ปภาดา พูลสุข ผสข. รายงาน