หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่ประชาชนชาวจังหวัดชลบุรีไม่พอใจในการบริหารจัดการงานถวายดอกไม้จันทน์ และเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลาออกว่า ความไม่พอใจเรื่องการจัดงานไม่ว่าจะที่ใดก็ตาม แต่ขณะนี้พระราชพิธีได้จบไปแล้ว และถือว่าได้จัดทำอย่างสมพระเกียรติ แต่บางอย่างที่อาจไม่พอใจ หรือไม่ถูกใจกันบ้างก็ขอให้อภัย เพราะทุกคนหวังดี และเจตนาดี ซึ่งวิธีการอาจไม่สามารถแก้ไขอะไรได้มาก เพราะมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก โดยทั่วประเทศมีประชาชนเข้าร่วมกว่า 21 ล้านคน ซึ่งถือว่าไม่มีพระราชพิธีใดมีผู้เข้าร่วมมากมายเช่นนีมาก่อน และยังมีคนที่ไม่ได้เข้าร่วมที่พิธีโดยติดตามข่าวสารอยู่ที่บ้าน และทุกคนอยู่ในถือว่าอยู่ในความสงบเรียบร้อย ซึ่งเป็นไปตามหลักการประชาธิปไตย ที่ต้องคำนึงชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า หลังจากการประชุมเสร็จสิ้น จะเดินทางเดินทางไปให้กำลังใจผู้ได้รับจากปัญหาน้ำท่วมที่จังหวัดขอนแก่น และมาตรการช่วยเหลือเยียวยา
ส่วนสถานการณ์น้ำทุกพื้นที่ ในขณะนี้ต้องทำความเข้าใจร่วมกัน นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า ในลุ่มแม่น้ำต่างๆ จากเหนือลงมา ทั้งลุ่มแม่น้ำยม ลุ่มแม่น้ำน่าน แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำเจ้าพระยา ลุ่มน้ำชีและมูล ประกอบกับพายุช่วงที่ผ่านมาทำให้มีปริมาณน้ำมาก ซึ่งได้มีการพยายามจะบริหารจัดการน้ำมาโดยตลอด แต่จะไม่ให้มีน้ำท่วมเลยนั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะปริมาณที่มีไม่ต่ำกว่าปี 2554 แต่ที่สำคัญคือรัฐบาลได้ทำความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องการเก็บเกี่ยวผลผลิต ให้เก็บเกี่ยวได้ก่อนโดยเฉพาะลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ได้ทันเวลา ทำให้สามาถใช้พื้นที่ 12 ทุ่ง ในการเป็นแก้มลิงรับน้ำที่สามารถบรรเทาได้ระดับหนึ่งเพราะไม่ฉะนั้นน้ำอาจจะเข้าท่วมในกรุงเทพและอีกหลายพื้นที่
สำหรับผู้ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่เป็นพื้นที่นอกคันกั้นน้ำ มีเข้ามาบ้างเป็นส่วนน้อย ซึ่งต้องเร่งการระบายให้เร็วที่สุด ก่อนน้ำทะเลจะหนุน ทั้งนี้ต้องมีการลดการระบายน้ำจากเขื่อเจ้าพระยาลง ซึ่งมีแนวโน้มว่าปริมาณน้ำจะลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนของการเตรียมการรับมือสถานการณ์น้ำนั้น ต้องเตรียมรองรับ ในพื้นที่ภาคใต้ด้วยเนื่องจากน้ำไหลลงมาจากเหนือ ตามธรรมชาติแม้จะยังไม่มีข่าวว่าพายุจะเข้า ก็ต้องเตรียมรับมือให้ดีที่สุด โดยการแก้ปัญหา ได้มีการสั่งการให้มีการจัดตั้งสำนักงานบริหารจัดการน้ำใหม่ เพื่อรวบรวมข้อมูล แผนงานและงบประมาณทั้งหมดของทุกหน่วยงาน เพื่อผ่านการประชุมพิจารณาของคณะกรรมการ ซึ่งมีต้นเป็นประธาน ในการนำเข้าสู่คณะรัฐตรีเพื่ออนุมัติงบประมาณบริหารจัดการต่างๆ ทุกกระทรวงต้องบูรณาการการทำงานร่วมกั
ตลอด 3ปีที่ผ่านมาได้ใช้เวลาศึกษาทำความเข้าใจจนประชาชนยินยอม เช่น โครงการก่อสร้างโครงการขอระบายน้ำบางบาล-บางไทรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ใช้งบประมาณกว่า 1 หมื่น ล้านบาท ซึ่งต้องเรืงดำเนินการให้ได้ รวมถึงพิจารณาศึกษาโครงการคลองระบายน้ำแห่งใหม่ที่จะสร้างเพื่อระบายน้ำตากแม่น้ำป่าสักลงมา โดยใช้งบประมาณ 3-4 หมื่นล้านบาท ซึ่งอาจจะกระทบต่อพื้นที่สำเกษตรของ ประชาชนบ้าง แต่โครงการเหล่านี้ก็ต้องพิจารณาตามความเหมาะสม
นายกรัฐมนตรีย้ำว่า รัฐบาลพยายามจัดการน้ำทั้งระบบ ทั้งน้ำอุปโภคบริโภค ระบบการประปา การจัดแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งสามารถทำได้ทั้งประเทศไม่เกินร้อยละ 40 เนื่องจากต้องเป็นไปตามสภาพพื้นที่ จึงมีความจำเป็นตต้องมีการปรับพื้นที่ให้เหมาะสมกับการทำการเกษตร เช่นสภาพดิน สภาพน้ำ ซึ่งรัฐบาลต้องเข้าไปช่วยเหลือในส่วนนี้ เพราะการสร้างความเข้าใจกับประชาชน ขณะที่มาตรการการช่วยเหลือ ผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมนั้น มีมาตรการชัดเจนอยู่แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องเร่งสำรวจรายละเอียดในแต่ละพื้นที่เพื่อดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาต่อไป
ส่วนการจัดงานประเพณีลอยกระทงในวันที่ 3 พ.ย.นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นงานแรกหลังจากพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดชบรมนาถบพิตร หลังจากที่อยู่ในช่วงเวลาโศกเศร้ากว่า 1 ปี จึงขอให้จัดงานพอสมควรตามวัฒนธรรมประเพณี ลดการสนุกสนานแบบหลุดโลก เพราะจะมีปัญหาตามมาหลายอย่างเช่น การเมาแล้วขับ ทั้งนี้ในการงานลอยกระทงกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้กำกับดูแล ซึ่งการจัดงานจะต้องขออนุญาตก่อน ส่วนเรื่องการปล่อยโคมลอยก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายที่กำหนดไว้ทุกอย่าง