ภายหลังการประชุมสภากลาโหมโดยมีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงหลาโหม กล่าวว่า ในที่ประชุมมีการหารือถึงการสร้างอาชีพให้กับผู้ต้องขังกรณีที่เกี่ยวข้องกับคดีอาวุธปืนที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นแนวคิดของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่ให้กองทัพบกพิจารณา นำผู้ต้องขังคดีที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนโดยผิดกฎหมายเข้ารับการอบรมที่กรมสรรพาวุธทหารบก เพื่อใช้เวลาระหว่างถูกคุมขังให้เป็นประโยชน์ พัฒนาบุคลากรรองรับอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศของกองทัพ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี มองว่า บุคคลเหล่านี้เป็นผู้ที่มีทักษะความสามารถ ถ้าได้รับการฝึกฝนพัฒนาไปในทางที่ถูกต้อง และอบรมความรู้ทางเทคนิค จะเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการป้องกันประเทศ จะได้ไม่ต้องไปผลิตอาวุธปืนเถื่อนขาย และเมื่อผู้ต้องขังพ้นโทษแล้ว หากต้องการเข้ามาทำงานกับกองทัพ ก็สามารถเข้าร่วมงานได้ตามขั้นตอนเช่นคนปกติ ส่วนจำนวนนั้นไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากมีการจับกุมเป็นระยะ ส่วนที่มองว่าการนำนักโทษคดีอาวุธปืนมารับการอบรม จะเป็นดาบสองคมหรือไม่นั้น พลโทคงชีพ กล่าวว่า อยากให้มองในมุมบวก บุคคลเหล่านี้เป็นผู้ที่มีความรู้อยู่แล้ว ก็ควรได้รับการอบรมความรู้ในทางที่ถูกต้อง เพื่อผลิตในสิ่งที่ถูกต้องนำไปใช้งานได้ ดีกว่าไปหลบซ่อน ซึ่งเมื่อมีความเข้าใจด้านเทคนิคแล้ว ก็อาจนำไปขยายเทคโนโลยีการถ่ายทอดอาวุธปืนให้กับกองทัพต่อไป
นอกจากนี้พล.อ.ประวิตร ยังมอบนโยบายให้หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนและน้ำท่วม อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดตาก สุโขทัย พิจิตร และพื้นที่ภาคกลางตามลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ในจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี สิงห์บุรี ชัยนาท ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรีและปทุมธานี ซึ่งมีประชาชนได้รับผลกระทบจำนวนมาก โดยให้ประสานงานกับส่วนราชการในพื้นที่ ประเมินสถานการณ์น้ำ ท้ายเขื่อนอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งสนับสนุนกำลังพลเครื่องมือชุดเคลื่อนที่เร็ว พร้อมปฎิบัติการเชิงรุกในการเข้าคลี่คลายสถานการณ ์แก้ไขปัญหาน้ำท่วมทันที
ขณะที่ บางพื้นที่สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายแล้ว ให้ประสานการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนในพื้นที่อย่างทั่วถึง จนกว่าสถานการณ์น้ำจะเข้าสู่สภาวะปกติ
...
ผสข.เกตุกนก ครอคุ้ม