*กองปราบรวบผู้ต้องหาขโมยโทรศัพท์บนรถไฟ รับเป็นคนดูต้นทาง ตามจับที่เหลืออีก 1*

การติดตามจับกุมผู้ต้องหาลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือของผู้โดยสารในขบวนรถไฟด่วนพิเศษ ที่ 37 เส้นทางกรุงเทพฯ-สุไหงโกลก ล่าสุดที่กองบังคับการกองปราบปราม พ.ต.อ. อัคราเดช พิมลศรี รองผู้บังคับการกองปราบปราม พร้อมด้วย พ.ต.อ. ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้กำกับการ 6 กองบังคับการกองปราบปราม แถลงจับกุม นายอุสมาน อาดัม อายุ 19 ปี  เชื้อชาติปากีสถาน  พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง ซิมการ์ด 3 ซิม และบัตรเอทีเอ็ม กสิกรไทย 1 ใบ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2557 บริเวณ ปากซอยคลองหลวง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พ.ต.อ. อัคราเดช เปิดเผยว่า จากการสืบสวนพบว่า นายอุสมาน เป็นผู้ดูต้นทางให้นายอับดุลเลาะห์ สาหะ เพื่อนอีกคนที่โดยสารมาด้วยกันเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ โดยนาย อุสมานมีพฤติการณ์จงใจเลือกซื้อตั๋วที่ติดกับห้องของพนักงานดูแลรถไฟ และสามารถมองเห็นผู้เสียหายได้ชัดเจน เพื่อคอยดูความเคลื่อนไหวของพนักงานระหว่างก่อเหตุ ช่วงกลางดึกที่ผู้โดยสารนอนหลับสนิท  ภายหลังก่อเหตุลักทรัพย์แล้ว ได้แยกย้ายกันหลบหนี โดยนายอุสมาน ได้นำโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายติดตัวมา 2 เครื่อง และเปลี่ยนนำมาใช้เป็นของตัวเอง นายอุสมาน ปฎิเสธว่าไม่ได้วางยาผู้โดยสารก่อนที่จะขโมยทรัพย์สิน ขณะที่ ผลการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในโบกี้ที่เกิดเหตุ ไม่พบร่องรอยการวางยานอนหลับผู้โดยสาร ส่วนผู้ต้องหาอีกคนคือ นายอับดุลเลาะห์ ตำรวจได้ออกหมายจับแล้ว คาดว่ายังอยู่ในไทย นายอุสมาน ได้ให้การซัดทอดว่านายอับดุลเลาะห์ ได้ลักทรัพย์เงินจำนวน 2,500 บาท และโทรศัพท์มือถือที่เหลืออีก 10 เครื่องไป และให้การว่าของดังกล่าวน่าจะถูกนำไปไว้ที่ย่านมีนบุรี  พ.ต.อ.อัคราเดช เปิดเผยว่า ยังไม่เชื่อคำให้การของนายอุสมาน เนื่องจากอาจเป็นการซัดทอดให้พ้นผิด และคาดว่าผู้ก่อเหตุอาจมีมากกว่า 2 คน ต้องสืบสวนอย่างละเอียดต่อไป ในวันพรุ่งนี้จะนำตัวนายอุสมานไปทำแผนที่สถานีรถไฟหัวลำโพงในเวลา 11.00น. พ.ต.อ. อัคราเดช กล่าวว่า ขอให้ประชาชนอย่าตื่นกลัวกับภัยบนรถไฟ เนื่องจากตำรวจกองปราบปรามได้ประสานงานกับตำรวจรถไฟ และตำรวจท่องเที่ยวคอยดูแลอย่างเข้มงวด และหากพบพิรุธ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่บนรถไฟได้ทันที

ธีรวัฒน์