สหรัฐฯพร้อมใช้ทูต+กองทัพต่อเกาหลีเหนือ/เมียนมาจับผสข.ต่างชาติ

30 ตุลาคม 2560, 06:15น.


นายเจมส์ แมตทิส รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เตือนว่าเกาหลีเหนือจะต้องเผชิญมาตรการตอบโต้ทางทหารจากสหรัฐฯ หากใช้อาวุธนิวเคลียร์ โดยในเดือนหน้าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ มีกำหนดเดินทางเยือนเกาหลีใต้ หลังจากที่เกาหลีเหนือเพิ่มความตึงเครียดด้วยการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 และยิงขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM) โดยในช่วงสุดสัปดาห์ นายแมตทิส เดินทางไปกรุงโซลเพื่อเข้าร่วมการประชุมหารือด้านความมั่นคงประจำปี และยืนยันว่า สหรัฐฯ สนับสนุนให้ใช้กระบวนการทางการทูตเพื่อแก้ไขปัญหา แต่ก็เห็นว่านักการทูตจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดก็ต่อเมื่อมีกำลังทหารที่แข็งแกร่งอยู่เบื้องหลัง ทั้งเตือนว่าเกาหลีเหนือไม่ควรเข้าใจผิดว่ามีกำลังทหารและอาวุธที่เท่าเทียมกับสหรัฐฯ และเกาหลีใต้



สำหรับการที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเดินทางเยือนเกาหลีใต้ ตามกำหนดการทัวร์ 5 ชาติเอเชีย ซึ่งรวมถึงญี่ปุ่น จีน เวียดนาม และฟิลิปปินส์ เขามีกำหนดกล่าวปาฐกถาในรัฐสภาเกาหลีใต้ และเดินทางไปเยือนฐานทัพสหรัฐในเกาหลีใต้ระหว่างวันที่ 7-8 พฤศจิกายนนี้



สถานีโทรทัศน์ของทางการอิหร่านเผยแพร่ถ้อยคำของประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานี ของอิหร่านที่ยืนยันว่าอิหร่านจะเดินหน้าโครงการขีปนาวุธต่อไป และเป็นโครงการที่ไม่ได้ละเมิดต่อข้อตกลงกับนานาชาติ เพราะเป็นอาวุธที่จะนำไปใช้เพื่อป้องกันประเทศ



ในสัปดาห์นี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ จะประกาศชื่อประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ ซึ่งเขาเปิดเผยว่า จะเป็นผู้ที่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม และมั่นใจว่าทุกคนจะต้องประทับใจ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จำนวนมากเชื่อว่า นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน อายุ 71 ปี ที่จะครบวาระ 4 ปี ในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า จะอยู่ในตำแหน่งนี้ต่อไป แต่ก็ยังมีคู่แข่งคนสำคัญคือ นายจอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด อายุ  70 ปี ซึ่งไม่เห็นด้วยกับนโยบายการเงินผ่อนปรนของนางเยลเลน



กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า เศรษฐกิจอเมริกันขยายตัวอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่งร้อยละ 3 ในไตรมาสที่ 3 แม้พายุเฮอริเคนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และเป็นไปตามเป้าหมายการเติบโตที่ประธานาธิบดีทรัมป์ กำหนดไว้



ตามที่นายกรัฐมนตรีมาริอาโน ราฮอย แห่งสเปนใช้มาตรา 155 ยกเลิกสถานะการเป็นเขตปกครองตนเองกาตาลูญญา และยึดอำนาจการบริหารทั้งหมด แต่ทางการสเปนยินดีให้นายคาร์ล ปุยเดอมองต์ ซึ่งถูกปลดจากตำแหน่งผู้นำแคว้นกาตาลูญญา ลงสมัครรับเลือกตั้งรัฐบาลท้องถิ่นที่จะมีขึ้นในวันที่ 21 ธันวาคมนี้



อย่างไรก็ตาม รัฐบาลแคว้นกาตาลูญญาเผยแพร่แถลงการณ์ของนายปุยเดอมองต์ ประณามการที่รัฐบาลสเปนใช้มาตรการอันก้าวร้าว เพื่อขัดขวางเจตนาของชาวกาตาลัน และเรียกร้องให้ประชาชนในพื้นที่ร่วมกันไม่ยอมรับคำสั่งของรัฐบาลสเปนภายใต้กรอบประชาธิปไตย โดยในแถลงการณ์ฉบับนี้ นายปุยเดอมองต์ยังคงใช้ตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งกาตาลูญญา



สำหรับการที่กาตาลูญญาจัดการลงประชามติและสถาปนาสาธารณรัฐกาตาลูญญานั้น สหภาพยุโรป (อียู) สหรัฐ แคนาดา เม็กซิโก สหราชอาณาจักร เยอรมนี และฝรั่งเศส ไม่รับรองการสถาปนา



โดยเมื่อวันอาทิตย์ มีประชาชนจำนวนมากออกมาชุมนุมในนครบาร์เซโลนา เมืองหลวงของกาตาลูญญา เพื่อแสดงความต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของสเปนต่อไป ทั้งร่วมกันประณามสมาชิกสภาของแคว้นพยายามสถาปนาสาธารณรัฐกาตาลูญญา



ส่วนสถานการณ์ในซีเรีย มีความคืบหน้าปฏิบัติการทางทหารเพื่อกวาดล้างกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส มีการปะทะกันรุนแรงในนครเดอีร์ เอซซอร์ เมืองเอกแคว้นเดอีร์ เอซซอร์ ที่อยู่ทางตะวันออก มีผู้เสียชีวิตมากกว่า  73 ราย แบ่งเป็นฝ่ายทหารซีเรีย 23 ราย และนักรบไอเอส 50 ราย



ทางการเมียนมาจับกุมนักข่าวชาวต่างชาติ 2 คน ซึ่งเป็นชาวสิงคโปร์กับมาเลเซีย ในสังกัดสื่อของตุรกี และชาวเมียนมาอีก 2 คน ในข้อหาลักลอบนำเข้าวัตถุโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังถูกพบว่าบังคับโดรนบินผ่านอาคารรัฐสภา หากศาลตัดสินว่ามีความผิดจริงจะต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับเงิน หรือทั้งจำทั้งปรับ



นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ของกระทรวงเกษตรประจำเมืองเมียงดอว์ในรัฐยะไข่ ยังเริ่มการเก็บเกี่ยวข้าวในพื้นที่เพาะปลูกของชาวโรฮิงญาที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ ในพื้นที่ประมาณ 177,500 ไร่



ที่นครย่างกุ้งประชาชนจำนวนมากร่วมการเดินขบวนปกป้องกองทัพ ซึ่งถูกประชาคมโลกประณามว่าใช้ความรุนแรงเพื่อขับไล่ชาวโรฮิงญาออกไปจากประเทศ ทั้งมีการเคลื่อนไหวจากหลายประเทศที่ต้องการให้เมียนมารับชาวโรฮิงญากลับ  แต่ผู้ชุมนุมระบุว่า กองทัพทำหน้าที่ปกป้องกลุ่มชาติพันธุ์ เชื้อชาติ และศาสนาของเมียนมา ทั้งไม่ต้องการรับชาวโรฮิงญากลับมา



ส่วนทางการบังกลาเทศมีแผนทำหมันโดยสมัครใจให้แก่ชาวโรฮิงญาที่อยู่ในค่ายผู้อพยพลี้ภัย หลังจากที่ไม่ประสบความสำเร็จในการส่งเสริมการวางแผนครอบครัวและคุมกำเนิด โดยชาวโรฮิงญาเชื่อว่าการมีลูกหลายคนจะทำให้สามารถเข้าถึงอาหารได้มากขึ้น และเชื่อว่าการคุมกำเนิดเป็นบาป



ประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เต ผู้นำฟิลิปปินส์ แต่งตั้งนายแฮร์รี โร้ก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นอดีตศาสตราจารย์นิติศาสตร์ด้านสิทธิมนุษยชน เป็นโฆษกส่วนตัวคนใหม่ โดยประธานาธิบดีดูแตร์เตระบุสั้นๆ ว่า เป็นเพราะเป็นคนที่ปากจัดเหมือนกัน



 ....

ข่าวทั้งหมด

X