บังกลาเทศ กำลังวางแผนให้บริการทำหมันโดยสมัครใจในค่ายผู้อพยพชาวโรฮิงญา หลังจากความพยายามในการควบคุมกำเนิดล้มเหลว เนื่องจากชาวมุสลิมโรฮิงญา เกรงว่าเป็นบาป เพราะขัดกับความเชื่อทางศาสนา ประกอบกับชาวโรฮิงญา ยังเชื่อว่า การมีครอบครัวขนาดใหญ่จะช่วยให้อยู่รอด และเชื่อมั่นว่า ยังสามารถหาเลี้ยงครอบครัวขนาดใหญ่ได้ เพราะยังมีที่ดินและทรัพย์สินอยู่ในรัฐยะไข่ เมียนมา นอกจากนี้ บางคนยังเชื่อว่า การตั้งครรภ์เป็นการลดโอกาสตกเป็นเป้าการข่มขืนและการทำร้ายจากเจ้าหน้าที่เมียนมา ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่บังกลาเทศรายงานว่า ปัจจุบัน มีหญิงชาวโรฮิงญาอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ประมาณ 20,000 คน และอีก 600 คนเพิ่งให้กำเนิดทารก หลังเดินทางมาถึงค่ายอพยพในบังกลาเทศ ตัวเลขดังกล่าวอาจต่ำกว่าความเป็นจริง เนื่องจากแพทย์ มิได้ทำคลอดเองหลายกรณี นอกจากนี้ ผู้ชายบางคนยังมีภรรยามากกว่า 1 คน บางครอบครัวมีลูกมากถึง 19 คน สามียังไม่เต็มใจใช้ถุงยางอนามัยที่ได้รับแจก อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่บังกลาเทศอยู่ระหว่างขออนุมัติจากรัฐบาลในการทำหมันชายและการตัดท่อนำไข่สตรี
ปัจจุบัน มีชาวมุสลิมโรฮิงญาอาศัยอยู่ในค่ายอพยพบังกลาเทศประมาณ 817,000 คน ทั้งที่เพิ่งเดินทางอพยพมาตั้งแต่ทหารเมียนมาปราบปรามเมื่อเดือนสิงหาคมและเดินทางอพยพมาก่อนหน้านี้ โดยชาวโรฮิงญาส่วนใหญ่ดำรงชีวิตอยู่ในสภาพเลวร้าย ต้องการรับได้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ทั้งอาหาร น้ำดื่ม น้ำสะอาด ความเสี่ยงทางด้านสุขอนามัย การแพร่ระบาดโรค สาธารณสุข ที่พัก ห้องฉุกเฉิน ห้องสุขา หรือแม้แต่ปัญหาสุขภาพจิต สัตว์ทำร้าย เช่น ช้าง สตรีมีครรภ์ไม่ได้รับการรักษาทางการแพทย์ ขณะที่เด็กเล็กราว 300,000 คน ต้องสูญเสียวัยเด็ก เพราะต้องช่วยทำงานแบกกระสอบข้าวและขนไม้ไผ่ ซึ่งเจ้าหน้าที่เกรงว่า ความเสี่ยงดังกล่าวจะอยู่นอกเหนือการควบคุมในอนาคต
ทีมต่างประเทศ
CR:NDTV.com