กรมชลฯ ย้ำน้ำเหนือที่นครสวรรค์ลดลง ไม่มีแผนเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา

27 ตุลาคม 2560, 15:54น.


ศูนย์ปฎิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน เผยแพร่เอกสารกรณีสถานการณ์น้ำ ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่ตอนบนเริ่มดีขึ้น หลังปริมาณน้ำในแม่เจ้าพระยาบริเวณสถานี C 2 อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ลดลงเหลือ 2,979 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที   แนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง กรมชลประทาน ยังคงปริมาณน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 2,697 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มาตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค.2560 จนกระทั่งถึงปัจจุบัน เวลา 06.00 น. ของวันที่ 27 ต.ค.2560ยังคงระบายน้ำในอัตราเท่าเดิม โดยได้แบ่งรับน้ำบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยาบางส่วนเข้าสู่ระบบชลประทานฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกรวมประมาณ 769 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ไม่มีแผนที่จะเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา



ปัจจุบันปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราดังกล่าวได้ไหลมาถึงจังหวัดปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานครแล้ว โดยไม่ได้ส่งผลกระทบให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ตามที่เป็นข่าวลือในโลกโซเซียล ทั้งนี้ พื้นที่น้ำท่วมด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาจะเป็นพื้นที่อยู่นอกคันกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท อำเภออินทร์บุรี อำเภอพรหมบุรี อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง อำเภอบางบาล อำเภอผักไห่ อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 14 จุด เท่านั้น และปริมาณน้ำที่ไหลผ่านสถานี C 29A อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปัจจุบันมีอัตราเฉลี่ย 2,826 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ยังต่ำกว่าความจุของลำน้ำมาก ความจุลำน้ำ 3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ไม่มีผลกระทบต่อพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล



สำหรับกรณีของคลองรังสิต เนื่องจากต้องแบ่งเบาปริมาณน้ำจากแม่น้ำป่าสัก ที่จะระบายลงแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านเขื่อนพระรามหก ด้วยการเพิ่มการรับน้ำเข้าคลองระพีพัฒน์มากขึ้น ส่งผลให้น้ำในคลองต่างๆรวมถึงคลองรังสิตมีระดับน้ำสูงขึ้น แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ควบคุมได้ เนื่องจากคลองเหล่านี้ มีอาคารบังคับน้ำ สถานีสูบน้ำที่จะควบคุมปริมาณน้ำ โดยไม่ส่งผลกระทบให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่ง



แฟ้มภาพ 

ข่าวทั้งหมด

X