บรรยากาศ บริเวณด้านทิศเหนือของท้องสนามหลวง ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ท่ามกลางประชาชนที่ยังคงปักหลักรอตั้งแต่ช่วงเช้า ผ่านทั้งการตากแดดที่ร้อนจัดและฝนที่กระหน่ำตกลงมาเมื่อช่วงบ่าย แต่ทุกคนก็ไม่ถอดใจ ที่จะอยู่ในพื้นที่ท้องสนามหลวง จนเสร็จสิ้นพระราชพิธี
นางสาวนงนุช บุญช่วย อายุ 53 กล่าวว่า รู้สึกปลาบปลื้มใจที่ได้เข้ามานั่งในพื้นที่ด้านในท้องสนามหลวงอย่างใกล้ชิด ซึ่งตั้งใจจะอยู่จนจบการแสดงมหรสพสมโภชในค่ำคืนนี้ แม้ในวันนี้จะไม่ได้ถวายดอกไม้จันทน์อย่างที่ตั้งใจไว้ แต่การได้มาอยู่ในที่ที่ใกล้ชิดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่สุด ก็ปลื้มใจอย่างมาก โดยในวันนี้ได้นำพระบรมฉายาลักษณ์พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ติดตัวมาจากบ้าน ด้วยความจงรักภักดีในพระองค์ และมีพระองค์เป็นแบบอย่างในด้านการทำความดี มีเมตตาสามัคคีซึ่งกันและกัน
ขณะที่ในวันนี้ได้เห็นถึงพลังความรักของประชาชนชาวไทยที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่ทุกคนพร้อมใจกันมาอยู่ในที่แห่งนี้ ไม่กลัวทั้งการตากแดดและตากฝน ไม่กลัวการเฝ้ารอเป็นเวลานานหลายชั่วโมง บนโลกใบนี้คงไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นที่ไหนที่พระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนทั้งประเทศเท่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 อีกแล้ว
ขณะที่ การแสดงมหรสพสมโภชในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในช่วงเย็นวันนี้จะเริ่มขึ้นภายหลังจาก พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ บริเวณด้านทิศใต้ ท้องสนามหลวงเสร็จสิ้น โดยมีทั้งสิ้น 3 เวที ประกอบด้วยเวทีที่ 1 การแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ เวทีที่ 2 การแสดงหุ่นหลวง หุ่นกระบอก และเวทีที่ 3 การแสดงดนตรีสากลจากวงดุริยางค์สากล 4 เหล่าทัพ
เกตุกนก ครองคุ้ม ผสข. รายงาน