ลีน่า จัง ร้องขอความเป็นธรรมจากกกต. หลังถูกแดง พร้อมขอถอนตัวจากการสมัครเป็นสปช.

16 สิงหาคม 2557, 11:51น.


หลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) มีมติให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนางลีน่า จังจรรจา  และดำเนินคดีอาญา โดย กกต.จะส่งเรื่องไปยังศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งเพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจาก กกต.พิจารณาเรื่องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) จากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 30 มี.ค.2557 โดยผู้ถูกร้องคือนางลีน่า ในฐานะผู้สมัครส.ว.กทม. กรณีขึ้นป้ายหาเสียงหลอกลวงหรือจูงใจให้เข้าใจผิด  ซึ่งกกต. พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. สมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2550 จึงมีมติให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง



ล่าสุด นางลีน่า ร่ำไห้ ขอถอนตัวจากการสมัครสมาชิกสภาปฎิรูปประเทศ(สปช.) หลังกกต.มีมติดังกล่าว เนื่องจากระเบียบของการรับสมัครได้กำหนดคุณสมบัติว่า จะต้องไม่เป็นผู้ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง โดยเดินทางมาที่สำนักงานกกต. เพื่อยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับนายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. พร้อมระบุว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคำวินิจฉัย กกต.ควรจะให้ใบเหลือง แต่กลับให้ใบแดง ได้ยื่นเอาผิดกับบริษัทที่ตีพิมพ์ป้ายแนะนำตัวเองแล้ว และคำวินิจฉัยของ กกต. เป็นการสะกัดไม่ให้เป็นสปช.

อย่างไรก็ตาม นายดุษฎี พรสุขสวัสดิ์ รองเลขาธิการด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย สำนักงานกกต. เปิดเผยหลังผู้สื่อข่าวสอบถามว่า มติดังกล่าวจะกระทบกรณีที่นางลีนา สมัครเข้ารับการสรรหาสปช. หรือไม่ว่า ยังไม่ถือว่านางลีน่า ถูกเพิกถอนสิทธิ เพราะเป็นเพียงมติของ กกต.จึงต้องส่งให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ถ้าศาลฎีกาพิจารณาอย่างไรก็จะถือว่าเป็นที่สิ้นสุด มีรายงานว่า มติเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนางลีน่า ของ กกต.ครั้งนี้ไม่มีผลต่อคุณสมบัติการเข้ารับการเสนอชื่อเป็น สปช. เนื่องจากนางลีน่า เคยถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ในการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯกทม. เมื่อปี 2547 ทำให้เป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครเป็น สปช. ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวมาตรา 29 ประกอบมาตรา 8 (4) ที่ระบุว่าต้อง ไม่เคยถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งอยู่แล้ว



 CR:TNN24



 

ข่าวทั้งหมด

X