บรรยากาศของประชาชนที่เดินทางเพื่อเข้าร่วมงานถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชซึ่งในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เปิดจุดคัดกรองให้ประชาชนเข้า ตั้งแต่เวลา 4.00 น. โดยในบริเวณจุดคัดกรองที่ 9 ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ซึ่งมีประชาชนนั่งรออยู่เป็นจำนวนมาก ท้ายแถวยาวไปจนถึงบริเวณบางลำพู ขณะที่สภาพอากาศในช่วงเย็นวันนี้แม้ว่าจะไม่มีแดด แต่อากาศค่อนข้างที่จะร้อนอบอ้าว โดยมีเจ้าหน้าที่จิตอาสาคอยเดินอำนวยความสะดวกทั้งการแจกพัด แจกอาหารกล่อง อาหารว่างและน้ำดื่ม ให้กับประชาชนตลอดเวลา ส่วนประชาชนที่รู้สึกไม่สบายหรือมีอาการเจ็บป่วย บริเวณจุดคัดกรองใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า จะมีเป็นเต๊นส์พยาบาลจากโรงพยาบบาลวชิระ คอยอำนวยความสะดวกโดยเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ส่วนใหญ่ประชาชนที่เข้ารับการรักษามักจะมีอาการอ่อนเพลียที่เกิดจากการพักผ่อนน้อย มีอาการเป็นลม และมีอาการของโรคประจำตัวกำเริบ จึงเน้นย้ำให้ ประชาชน รับประทานอาหารและน้ำดื่มให้มากๆ รวมถึงพักผ่อนให้เพียงพอ
นาางประไพ นาคบำรุง อายุ 65 ปี ประชาชนที่เดินมาร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ซึ่งขณะนี้ได้นั่งรออยู่บริเวณจุดคัดกรองสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า กล่าวว่า เดินทางมากับเพื่อนบ้านจาก จ.นครสวรรค์ ตั้งแต่ 05.00 น. ของเช้านี้ ด้วยรถไฟที่เจ้าหน้าที่จัดบริการไว้ให้ จนมาถึงที่บริเวณท้องสนามหลวงเวลา 11.00 น. แม้ขณะนี้จะไม่สามารถเข้าไปยังพื้นที่ท้องสนามหลวงได้ แต่ก็ไม่ถอดใจจะยังคงนั่งรอในบริเวณที่ใกล้ที่สุด และรอไปจนถึงวันที่ 27 ต.ค. โดยได้เตรียมเสื้อผ้า สัมภาระ ยารักษาโรคมาอย่างดี สำหรับการนอนค้างคืน ซึ่งการเดินทางมาในวันนี้ก็มาด้วยหัวใจ พร้อมกล่าวความรู้สึกว่า ในวันพรุ่งนี้จะเป็นวันสุดท้าย ซึ่งน่าใจหายด้วยความรักในพระองค์ท่าน พระองค์ทรงเป็นพ่อที่ดีของแผ่นดิน จึงไม่อยากให้พระองค์จากไปไหนอยู่เป็นร่มโพธิ์ ร่มไทรของประชาชนต่อไป หากสามารถนำชีวิตตัวเองแลกได้ก็ยินยอมสละให้ แต่ก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ ทุกอย่างได้ถูกกำหนดไว้แบบนี้แล้ว พร้อมกับเล่าถึงครั้งสุดท้ายที่มีโอกาสรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่วังไกลกังวล ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ตื้นตันใจและภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต รวมถึงยังได้มีโอกาสเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพภายในพระบรมมหาราชวัง อีก 11 ครั้ง
ผสข.เกตุกนก ครองคุ้ม รายงาน