+++หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวในทวีตเตอร์ ต่อว่านายบ็อบ คอร์เกอร์ วุฒิสมาชิกจากรัฐเทนเนสซีสังกัดพรรครีพับลิกันและประธานคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์วุฒิสภาสหรัฐฯว่า วุฒิสมาชิกคอร์เกอร์ ซึ่งเคยช่วยประธานาธิบดีบารัค โอบามา ทำข้อตกลงกับอิหร่าน ซึ่งเป็นข้อตกลงที่ไม่ดี
+++ล่าสุด นายคอร์เกอร์ กล่าวตอบโต้ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์มาตรฐานต่ำและยังทำให้ประเทศชาติเสื่อมเสียในสิ่งที่เขาทำ โชคไม่ดีที่ประเทศของเราต้องมาเจอแบบนี้ วุฒิสมาชิกคอร์เกอร์ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่เคยสนับสนุนนายทรัมป์ ในการลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่เขาจะไม่ลงคะแนนให้กับประธานาธิบดีทรัมป์อีกต่อไปแล้ว เขาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ไม่สามารถก้าวขึ้นมาได้ในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯ
+++สำนักข่าวเอพี รายงานว่านายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางถึงกรุงอิสลามาบัด ปากีสถาน เพื่อย้ำถึงความสำคัญในการปราบปรามกลุ่มติดหัวรุนแรง การเยือนปากีสถานของนายทิลเลอร์สันมีขึ้นหนึ่งวันหลังการเยือนอิรักและอัฟกานิสถาน นายทิลเลอร์สัน จะเดินทางไปเยือนอินเดีย หลังการแวะเยือนปากีสถาน เป็นการเดินทางเยือนภูมิภาคเอเชียใต้เพื่อจัดทำยุทธศาสตร์ใหม่ให้กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ สำหรับภูมิภาคเอเชียใต้ มุ่งเน้นเรื่องการปราบปรามกลุ่มหัวรุนแรงเป็นส่วนใหญ่
+++เดอะซัน รายงานว่า รัสเซีย ใกล้จะทดสอบจรวดนิวเคลียร์ที่มีศักยภาพสูง เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยว่า ขีปนาวุธ RS-28 ซาร์มัต มีความพร้อมสำหรับการทดสอบครั้งแรกแล้ว หลังจากเผยแพร่ภาพถ่ายเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว
ขีปนาวุธที่ได้รับฉายา Satan 2(ซาตาน2) มีพิสัยทำการ 6,000 ไมล์(ราว 9,600 กิโลเมตร) บรรทุกหัวรบได้สูงสุด 16 หัวรบและมีศักยภาพทำลายพื้นที่ขนาดพอๆกับฝรั่งเศสหรือรัฐเทกซัสของสหรัฐฯได้ คาดหมายว่าการทดสอบตามคำสั่งของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน จะมีขึ้นที่สนามทดสอบในเพลเซ็ตสก์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัสเซีย
+++นายซง ยองมู รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ และนายชาง วันฉวน รัฐมนตรีกลาโหมจีนได้พบกันนอกรอบเวทีประชุมด้านความมั่นคงที่ฟิลิปปินส์เป็นเจ้าภาพ แต่ไม่มีฝ่ายใดที่เปิดเผยรายละเอียดในการหารือสองฝ่าย เป็นการหารือกันครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี การเจรจากันดังกล่าวมีขึ้นในช่วงที่มีความตึงเครียดสองฝ่าย โดยจีนคัดค้านการที่เกาหลีใต้ ให้ประจำการระบบป้องกันภัยขีปนาวุธของสหรัฐฯ แต่ทั้งสองประเทศยังคงร่วมมือกันในการปลดชนวนวิกฤตนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ
+++สำนักข่าวยอนฮัพ รายงานว่า การพบกันของรัฐมนตรีกลาโหมจีนและเกาหลีใต้ ใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมง โดยมีประเด็นที่สองฝ่ายจะหาทางฟื้นฟูความสัมพันธ์
+++รัฐบาลสหรัฐฯ สั่งถอนหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือทางทหารออกจากประเทศเมียนมาแล้ว หลังเกิดข้อครหาว่า กองทัพเมียนมาใช้กำลังปราบปรามชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมโรฮิงญาในรัฐยะไข่ทางภาคตะวันตกของเมียนมาอย่างรุนแรง พร้อมยืนยันว่า จะต้องมีบุคคลหรือหน่วยงานของเมียนมารับผิดสำหรับกรณีการสังหารชาวโรฮิงญาจำนวนมาก นอกจากนี้ สหรัฐฯ จะพิจารณาเรื่องการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อเมียนมาต่อไปด้วย ด้านกองทัพเมียนมา ยืนยันว่า ทำการปราบปรามกลุ่มติดอาวุธและไม่ได้มุ่งทำร้ายพลเรือน
+++ประธานาธิบดีเรเจพ ทายยิพ แอร์โดอาน ผู้นำตุรกี กล่าวว่า ปฏิบัติการทางทหารของตุรกีในจังหวัดอิดลิบทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย เสร็จสิ้นลงแล้วโดยรวม แต่ยังเหลือเขตอัฟรินที่อยู่ใกล้เคียงและกองกำลังชาวเคิร์ดควบคุมอยู่ ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องตกลงกัน
+++กองทัพตุรกี เริ่มจัดตั้งจุดสังเกตการณ์ในจังหวัดอิดลิบในเดือนนี้ตามข้อตกลงกับรัสเซียและอิหร่าน เพื่อลดการสู้รบระหว่างกลุ่มกบฏกับรัฐบาลซีเรีย อย่างไรก็ตาม บางส่วนมองกันว่าการที่ตุรกีส่งทหารมา ส่วนหนึ่งมีเป้าหมายเพื่อควบคุมกองกำลังชาวเคิร์ดวายพี
+++อุณหภูมิในเขตเซาเทิร์น แคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นเหนือ 38 องศาเซลเซียส คาดว่า จะเผชิญอากาศร้อนตั้งแต่ 35-40 องศาในหลายพื้นที่ ประกอบกับสภาพความแห้งแล้งและมีแนวโน้มร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ สถานีพยากรณ์อากาศแห่งชาติประกาศเตือนอันตรายจากโรคลมแดด จากสภาพอากาศร้อนและลมกระโชกแรง ซึ่งอาจทำให้ไฟไหม้มากขึ้น พยากรณ์อากาศคาดว่าสภาพอากาศเช่นนี้จะเป็นปัญหาอุปสรรคสำหรับนักดับเพลิง โดยเมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อน มีลมแรงทำให้ไฟไหม้ป่าลามต่อเนื่องไปทางเหนือ เผาผลาญแหล่งผลิตไวน์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย มีผู้เสียชีวิต 42 ศพ และทำลายสิ่งปลูกสร้าง 8,400 หลัง
CR:CNN