การประชุมสภาผู้ว่าการธนาคารโลก และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประจำปี 2560 ที่เพิ่งจบไป ประเทศไทยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าร่วมเวทีเช่นทุกครั้ง โดย นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ได้กลับมาสะท้อนเรื่องราวการประชุมครั้งนี้ โดยเล่าว่า ในสายตา IMF ขณะนี้ เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจน โดยคาดปีนี้จะขยายตัว ร้อยละ3.7 และปีหน้าจะเติบโตที่ร้อยละ 3.8 แต่มีประเด็นที่ต้องติดตาม ภายใต้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกรอบนี้ อัตราเงินเฟ้อไม่ได้เพิ่มขึ้น ต่างจากอดีต ซึ่งเป็นผลมาจากหลายปัจจัย
ในส่วนของประเทศไทย ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า แม้จะมีพฤติกรรมแสวงหากำไรอยู่บ้าง แต่เริ่มเห็นทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะก่อนหน้านี้ ที่กังวลกันเรื่องการผิดนัดชำระตั๋วแลกเงิน (B/E) แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผู้ลงทุนระวังมากขึ้น ขณะที่ผู้กำกับอย่างคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ก็ได้ปรับเกณฑ์ใหม่เข้มงวดขึ้น ส่งผลปริมาณตราสารที่ออกใหม่ลดลง ย้ำว่า ไทยมีหน่วยงานรัฐที่กำกับดูแลความเสี่ยงภาคการเงิน ทั้งกระทรวงการคลัง ก.ล.ต. ธปท. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่ทำงานร่วมกับสหกรณ์ออมทรัพย์ใกล้ชิดขึ้น เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่ามีการติดตามดูแล ป้องกัน
ส่วนอัตราเงินเฟ้อของไทยที่ปัจจุบันต่ำกว่าเป้าหมาย นายวิรไท กล่าวว่า เกิดจาก 3 สาเหตุ คือ ด้านอุปทานที่ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ เมื่อเทียบปีก่อนที่มีปัญหาภัยแล้ง การบริโภคยังฟื้นตัวช้า และ โครงสร้างเศรษฐกิจเปลี่ยนมีเทคโนโลยีเข้ามามากขึ้น รวมถึงอีคอมเมิร์ซ ทั้งนี้ คาดเงินเฟ้อจะเข้าสู่กรอบเป้าหมายที่ 2.5% บวกลบที่ 1.5% ช่วงต้นปีถึงกลางปี 2561 จึงไม่ต้องทบทวนเป้าหมายเงินเฟ้อใหม่