การรับตัวนางเบญจา หลุยเจริญ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรและพวก มาควบคุมตัว ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ให้จำคุก 3 ปี ไม่รอลงอาญา คดีที่เป็นเจ้าพนักงานของกรมสรรพากรปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อไม่ให้นายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตรของนายทักษิณ ต้องเสียภาษีอากร หรือเสียภาษีน้อยกว่าที่จะต้องเสีย และได้รับประโยชน์ที่มิควร โดยชอบด้วยกฎหมาย จากการที่นายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ซื้อหุ้นบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด เมื่อปี 2549 คนละ 164,600,000 หุ้น
นางชฏาพร รักษาทรัพย์ ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง กล่าวว่าหลังรับตัวผู้ต้องขังทั้ง 4รายมาควบคุมที่แดนแรกรับก็ได้ทำการสอบประวัติและซักถามอาการป่วยเบื้องต้น โดยผู้ต้องหาบางคนมีโรคประจำตัวเป็นความดันและเบาหวาน แต่ได้เตรียมยาส่วนตัวมาด้วย ในวันนี้จะมีแพทย์มาตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง ขณะที่คืนแรกผู้ต้องขังทุกคนมีอาการเครียดและเป็นกังวลเล็กน้อย เพราะเป็นผู้สูงอายุทุกคน แต่ก็สามารถปรับตัวได้ โดยช่วงเช้าสามารถกินข้าวได้ตามปกติ และหวังว่าวันนี้จะได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว สำหรับนางเบญจาที่มือซ้ายมีความบกพร่อง เท่าที่ดูตามสภาพก็ยังสามารถใช้การได้ปกติ ทัณฑสถานหญิงกลางก็คงให้ร่วมทำกิจกรรมตามที่ถนัด แต่คงไม่ได้ให้ทำงาน อย่างไรก็ตาม หากศาลไม่อนุญาตให้ประกันก็จะพิจารณาย้ายผู้ต้องขังไปอยู่ในแดนที่เหมาะสม ซึ่งอาจเป็นแดนผู้สูงอายุ
ด้านพ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากทัณฑสถานหญิงกลางและเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ว่าผู้ต้องขังเข้าใหม่ทั้ง 5 ราย ไม่มีปัญหาด้านสุขภาพ ผลการตรวจร่างกายเบื้องต้นพบว่ามีโรคประจำตัวของผู้สูงอายุ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ส่วนนางเบญจาจัดเป็นผู้พิการแขนขาด โดยเรือนจำจะให้การดูแลเป็นปกติเช่นเดียวกับผู้ต้องขังทั่วไป ระหว่างการรอฟังผลการประกันตัวเรือนจำจะจัดให้อยู่ในแดนแรกรับหากไม่ได้รับอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวจะจำแนกไปยังแดนคุมขังที่เหมาะสมต่อไป