นายกฯย้ำบริหารแผ่นดินให้เข้มแข็ง/กรมชลฯเปิดปริมาณน้ำในเขื่อนไม่หนักเท่าปี54/ผบ.ทบ.เตรียมแถลงจัดสร้างห้องน้ำอุทยานราชภักดิ์

ข่าวเที่ยงครึ่งวัน 12.30 น.

+++ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) พร้อมด้วยรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ,พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ,นายวิษณุ เครืองาม ,พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ,นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนายกฯ ได้กล่าวก่อนการประชุมว่า รัฐบาลและ คสช.มีแนวทางร่วมกันในการบริหารจัดการราชการแผ่นดินให้ระดับภาคเกิดความเข้มแข็ง โดยอยากให้ทุกอย่างเดินหน้าอย่างรวดเร็วขึ้นกว่าเดิมจากที่วางแผนไว้ จึงต้องมีการนำร่องในทางปฏิบัติ ตั้งแต่ปีงบประมาณนี้เป็นต้นไป ส่วนกฎหมายที่เกี่ยวข้องก็จะพิจารณาอีกครั้ง หวังอยากให้ทุกอย่างเดินหน้าได้ตั้งแต่วันนี้ หากปล่อยเวลาล่วงเลยไป การแก้ไขปัญหาก็จะช้าลง ซึ่งแต่ละภาคต้องทำให้จังหวัดมีความพร้อมพื้นฐานใกล้เคียงกัน รวมถึงสร้างความเชื่อมโยงระหว่างกัน ด้วยการกำหนดแผนพัฒนาในแต่ละพื้นที่ โดยไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน และแบ่งเป็นคาสเตอร์ เพื่อสนับสนุนขีดความสามารถในการแข่งขัน สู่ความมั่นคงในระดับภูมิภาค การปฏิบัติในเชิงบริหารต้องเกิดขึ้นให้เร็วที่สุด

+++ศูนย์ปฎิบัติการอัจฉริยะน้ำ กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำในเขื่อนหลัก 34 เขื่อน มีน้ำ 57,739 ล้าน ลบ.ม. ร้อยละ 82 ของความจุ เพิ่มขึ้น 297 ล้าน ลบ.ม. โดยมีเขื่อนที่มีน้ำเกิน มี 8 เขื่อน เช่น เขื่อนกิ่วคอหมา มีน้ำ 185 ล้าน ลบ.ม. ร้อยละ 109 ของความจุ ลดลง 3 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนแควน้อย มีน้ำ 946 ล้าน ลบ.ม. ร้อยละ 101 ของความจุ เพิ่มขึ้น 5 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนอุบลรัตน์ มีน้ำ 2,886 ล้าน ลบ.ม. ร้อยละ 119 ของความจุ เพิ่มขึ้น 27 ล้าน ลบ.ม. สำหรับเขื่อนที่มีน้ำเกือบเต็ม (มากกว่าร้อยละ 90) มี 7 เขื่อน เช่น เขื่อนห้วยหลวง มีน้ำ 133 ล้าน ลบ.ม. ร้อยละ 98 ของความจุ เท่าเมื่อวาน เขื่อนลำปาว มีน้ำ 1,829 ล้าน ลบ.ม. ร้อยละ 92 ของความจุ เพิ่มขึ้น 24 ล้าน ลบ.ม.

+++ส่วนเขื่อนที่มีน้ำน้อย (น้อยกว่าร้อยละ 55) มี 3 เขื่อน เช่นเขื่อนแม่กวง มีน้ำ 110 ล้าน ลบ.ม. ร้อยละ 42 ของความจุ เพิ่มขึ้น 1 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนแก่งกระจาน มีน้ำ 375 ล้าน ลบ.ม. ร้อยละ 53 ของความจุ เพิ่มขึ้น 4 ล้าน ลบ.ม. เมื่อเทียบกับปี 2554 วันเดียวกัน ปี 2554 มีน้ำมีน้ำร้อยละ 95 มี 25 เขื่อนที่มีน้ำเกิน/น้ำเกือบเต็ม อยู่ในภาคเหนือ อีสาน กลาง และ ตะวันออก เมื่อปี 2554 เขื่อนภูมิพล/เขื่อนสิริกิติ์ น้ำเกือบเต็มเขื่อน ต้องเร่งระบายน้ำวันละ 50 และ 20 ล้าน ลบ.ม. ตามลำดับ รวม 70 ล้าน ลบ.ม.ส่วนปี 2560 เขื่อนภูมิพล/เขื่อนสิริกิติ์ มีน้ำร้อยละ 71 และ 85 ตามลำดับ มีพื้นที่รับน้ำอีกมาก ขณะนี้ยังงดการระบายน้ำจาก 2 เขื่อนนี้ เก็บน้ำให้มากที่สุด

+++ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่ากากระทรวงกลาโหม ให้กองทัพบกชี้แจง ความโปร่งใสในการสร้างร้านค้าและห้องน้ำ ที่อุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ กว่า 15 ล้านบาท ว่า ถามว่าผิดตรงไหน เรื่องการสร้างห้องน้ำกับร้านค้า ซึ่งตนจะให้ชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดในการดำเนินการ  ด้านพ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างการประสานข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอรายละเอียดในการว่าจ้างบริษัทเอกชน ซึ่งทุกอย่างสามารถชี้แจงได้ทุกประเด็นตามที่สังคมให้ความสนใจ เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2559 ที่ผ่านมา กองทัพบก โดยศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ ได้ว่าจ้างบริษัทเอกชนให้ ดำเนินการก่อสร้างอาคารร้านค้าและห้องน้ำจำนวน 5 รายการ วงเงินงบประมาณ 15,950,000 บาท จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นการใช้งบประมาณแพงเกินไป

+++หลังจากที่ ป.ป.ช.เปิดรับสมัครบุคคลเข้ารับการคัดเลือกเพื่อดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยให้ยื่นใบสมัครด้วยตัวเอง ระหว่างวันที่ 6-24 ต.ค .พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการคัดเลือกบุคคล เพื่อดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า นับถึงปัจจุบันเพิ่งมีผู้เข้ามาสมัครรับคัดเลือกเพียง 1 รายเท่านั้น คือ นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการ ป.ป.ช. ซึ่งรักษาราชการแทนเลขาธิการป.ป.ช.อยู่ ถึงแม้ว่าถ้ามีผู้สมัครเพียงรายเดียวก็ไม่ถือว่าล็อคสเปค เพราะต้องผ่านการพิจารณาสรรหาตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด พิจารณาจากคุณสมบัติ พิจารณาจากผลงาน รวมทั้งการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนด้วย และยังจะมีการประเมินประสบการณ์ ประเมินคุณสมบัติต่างๆ ถ้าเกิดอยู่ในเกณฑ์ขั้นต่ำที่ไม่สามารถผ่านเกณฑ์ได้ก็คงต้องไม่ผ่านการคัดเลือกได้

+++นพ.วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงกรณี "ยาซอมบี้" ยาเสพติดชนิดใหม่ ซึ่งมีความแรงกว่ายาบ้า ยาไอซ์ โคเคน อย. ได้เสนอให้ควบคุมสารอัลฟ่า-พีวีพี เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 โดยผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษแล้ว ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเสนอ (ร่าง) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขลงนาม คลิปผู้เสพยาซอมบี้ แสดงให้เห็น อาการคลั่งทำร้ายคน ในต่างประเทศพบว่ามีการเสียชีวิตมากกว่า 130 คน มีรายงานการได้รับพิษแบบเฉียบพลัน บางรายเกิดผลต่อระบบประสาท หลอดเลือดและหัวใจ และอาจทำให้เกิดพฤติกรรมการแสดงออกทางจิตที่รุนแรง รูปแบบที่ใช้ส่วนใหญ่อยู่ในรูปของผงและเม็ด จำหน่ายทางอินเทอร์เน็ตและในตลาดขายยาผิดกฎหมาย

+++ศาลชั้นต้น นัดฟังคำพิพากษาคดีค้ามนุษย์ที่ พนักงานอัยการคดีค้ามนุษย์ 2 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นางมณตา หรือไก่ หยกรัตนกาญ จำเลยในความผิดฐาน ค้ามนุษย์ โดยกระทำแก่บุคคลอายุเกิน 15 ปี ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 สืบเนื่องจากต้นเดือน มิถุนายน 2549 ถึง ปลายเดือน ตุลาคม 2553 จำเลยได้หลอกนางสาวดาลิน หล้าคำ ผู้เสียหายที่ 1 / นางสาวกาญจนา ปองลาภสุนทร ผู้เสียหายที่ 2 / และนางสาวขวัญจิรา จิรสกุลโชคชัย ผู้เสียหายที่ 3 มาทำงานเป็นคนรับใช้ บังคับใช้แรงงานตั้งแต่เวลา 05.00 น. ถึง 22.00 น. โดยไม่มีวันหยุด และไม่จ่ายค่าจ้าง แล้วยังข่มขู่ผู้เสียหายหากไม่ยอมทำงานจะแจ้งตำรวจจับบิดามารดาโดยวันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัวนางมณตา หรือหญิงไก่ อยู่ในชุดผู้ต้องขังจากทัณฑสถานหญิงกลาง  ศาลรับฟังไม่ได้ว่า จำเลยมีพฤติการณ์ข่มขู่ เนื่องจากไม่การยึดบัตรประชาชน และการทำงานเป็นไปด้วยความสมัครใจ พยานหลักฐานรับฟังไม่ได้ ส่วนที่จำเลยบอกกับบิดาของผู้เสียหายที่ 3 ว่า หากลูกสาวไม่ยอมทำงานต่อ จะดำเนินคดีกับบิดาและมารดา ศาลเห็นว่าไม่มีหลักฐานแน่ชัด ฟังไม่ได้ว่าเป็นการข่มขู่เพื่อแสวงหาจากการบังคับใช้แรงงาน

+++ส่วนผู้เสียหายที่ 2 จำเลยได้ยึดบัตรประชาชน มาเก็บไว้ และไม่จ่ายค่าจ้างตามที่ตกลงกันไวั เดือนละ 6,000 บาท รวมถึงไม่ส่งให้เรียนพยาบาลตามที่จำเลยเสนอ โดยแม้งานจะไม่มาก ผู้เสียหายเพียงคนเดียว สามารถกระทำได้ แต่การยึดบัตรประชาชนไว้ จำเลยมีเจตนาหาประโยชน์โดยมิชอบจากการใช้แรงงาน จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.ค้ามนุษย์ พิพากษาจำคุก 4 ปี แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีจึงลดโทษให้ 1 ใน 4 เหลือจำคุก 3 ปี และให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เสียหายที่ 2 เป็นเงิน 590,007 บาท