ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้นำรถโดยสารประจำทางที่ติดตั้งระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีทิกเก็ต (E-Ticket) และระบบจีพีเอส (GPS) มาจัดแสดงตามแผนการทำงานที่จะมีการติดตั้งระบบอีทิกเก็ตบนรถโดยสารสาธารณะทั้งหมด 2,600 คัน แต่ในเบื้องต้นจะติดตั้งก่อน 800 คัน เพื่อรองรับการใช้บริการของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรผู้มีรายได้น้อยของกระทรวงการคลังตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ทดลองใช้บัตรอีทิกเก็ตด้วยการแตะบัตรที่เครื่องอ่านบัตร จากนั้นได้แนะนำว่า ขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยทำความเข้าใจแก่ผู้ถือบัตรด้วยว่าต้องแตะบัตรตรงไหน เพราะอาจมีปัญหาหากต้องยืนรอคิวแตะบัตรซึ่งจะทำให้เกิดผลกระทบเรื่องการจราจรติดขัดและเกิดความล่าช้า ทั้งนี้ รถโดยสารจะใช้ได้ทั้ง 2 ระบบคือทั้งการจ่ายเงินและใช้บัตร โดยระยะแรกทำได้เท่านี้ก่อน หลังจากนี้จะพิจารณาช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยในระยะ 2 ต่อไป พร้อมขอบคุณกระทรวงคมนาคมและกรมบัญชีกลางที่ดำเนินการในเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวกับผู้มีรายได้น้อยที่มาทดลองใช้บัตรที่ทำเนียบรัฐบาลด้วยว่าอย่าให้ใครมาหลอก ยืนยันว่ารัฐบาลดำเนินการตามข้อเท็จจริง
สำหรับประโยชน์ของการนำระบบอีทิกเก็ตมาใช้ เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว ในการใช้บริการรถโดยสาร ลดระยะเวลาในการรอเงินทอนจากการชำระค่าโดยสารและยังสามารถเชื่อมโยงกับระบบตั๋วรวมสำหรับการเดินทางเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆในอนาคต เช่น รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน และเรือ นอกจากนี้ ยังมีระบบจีพีเอสติดตั้งในตัวรถโดยสารและกล้องวงจรปิดภายในและนอกรถโดยสาร จะสามารถบอกพฤติกรรมการขับรถของพนักงาน หากมีการฝ่าฝืนกฎจราจรหรือขับออกนอกเส้นทาง พร้อมทั้งยังสามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวภายในตัวรถหากมีมิจฉาชีพหรือผู้วิกลจริตแฝงตัวมาก่อเหตุบนรถโดยสาร พนักงานขับรถและผู้ควบคุมศูนย์จะเห็นได้ชัดเจนและสามารถแก้สถานการณ์ได้ทันท่วงที
...
ผสข.ปิยะธิดา เพชรดี