รอยเตอร์ รายงานอ้างนายซิกมาร์ กาเบรียล รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนีว่า ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของ 28 ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)ประกาศจะปกป้องข้อตกลงนิวเคลียร์ที่อิหร่านกับ 6 ชาติมหาอำนาจของโลกลงนามไว้เมื่อปี 2558 ให้มีผลบังคับต่อไป และเรียกร้องให้สมาชิกนิติบัญญัติของสหรัฐฯไม่ให้ลงมติคว่ำบาตรอิหร่านซ้ำอีก
ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯเลือกใช้วิธีการไม่รับรองการปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่าน มีผลให้สภาคองเกรสสหรัฐฯจะเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจว่าสหรัฐฯจะถอนตัวออกจากข้อตกลงนี้หรือไม่
รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนีพูดเรื่องนี้กับนักข่าวหลังการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มอียูในลักเซมเบิร์กในวันนี้ โดยมีนางเฟเดริกา โมเกรินี หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของอียู ทำหน้าที่ประธาน ระบุว่ากลุ่มอียูหวั่นวิตกว่าการตัดสินใจถอนตัวออกจากข้อตกลงนี้อาจจะมีผลให้สหรัฐฯตัดสินใจส่งกำลังทหารไปจัดการกับอิหร่าน
ด้านนางโมเกรินี ระบุว่า ข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับนี้นับว่ามีประสิทธิภาพพอสมควรในแง่ของการป้องกันไม่ให้อิหร่านเดินหน้าโครงการนิวเคลียร์ ที่สำคัญคือสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ ยืนยันว่า อิหร่านได้ทำตามเงื่อนไขของข้อตกลงนั้นมาโดยตลอด แต่นายทรัมป์เคยเรียกข้อตกลงนี้ว่าเป็นข้อตกลงที่แย่ที่สุดเท่าที่สหรัฐฯเคยร่วมเจรจามา
ด้านนายฌอง-อีฟส์ เลอ ดริออง รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ระบุว่า การไม่แพร่หลายอาวุธนิวเคลียร์คือหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญต่อการรักษาความมั่นคงของโลกและเตือนว่าการกระทำใดๆที่กระทบกระเทือนต่อข้อตกลงที่มุ่งจะป้องกันไม่ให้อิหร่านเดินหน้าโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อาจจะมีผลเสียหายร้ายแรงต่อสันติภาพในอนาคต พร้อมทั้งแสดงความหวังว่าสภาคองเกรสสหรัฐฯจะไม่ลงมติถอนชื่อสหรัฐฯออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน
ทีมต่างประเทศ
CR:Reuters