สหรัฐฯไม่อุดหนุนเงินทุนธนาคารโลก/เกาหลีเหนือขู่โจมตีออสเตรเลีย

16 ตุลาคม 2560, 06:12น.


หลังจากที่รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศถอนตัวจากการเป็นสมาชิกองค์การยูเนสโก เพราะเห็นว่าองค์การมีอคติต่ออิสราเอล ทั้งขู่จะถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ล่าสุดรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ ยังปฏิเสธการเพิ่มเงินอุดหนุนให้แก่ธนาคารโลก ซึ่งจะนำไปใช้ในโครงการต่อสู้ความยากจนทั่วโลก ตามคำร้องขอของนายจิม ยอง คิม ประธานธนาคารโลก ซึ่งนายสตีเว่น มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่า ธนาคารโลกมีการบริหารงานอย่างไร้ประสิทธิภาพ และการเพิ่มเงินทุนไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา เพราะเงินทุนเหล่านี้ไม่ได้รับการจัดสรรอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้แล้วสหรัฐฯ ยังไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มเงินทุนสำหรับการปล่อยกู้



ส่วนในการประชุมรัฐมนตรีคลังของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำและเศรษฐกิจเกิดใหม่ หรือจี20 ที่จัดคู่ขนานกับการประชุมประจำปีของไอเอ็มเอฟและธนาคารโลก สหรัฐฯ ยังขัดขวางการหารือเกี่ยวกับนโยบายต่อต้านการกีดกันทางการค้า ซึ่งนายโวล์ฟกัง ชอยเบิล รัฐมนตรีคลังเยอรมนี ที่เป็นหนึ่งในคณะทำงานของไอเอ็มเอฟและธนาคารโลก กล่าววิจารณ์ท่าทีของสหรัฐฯ พร้อมอธิบายว่า การเพิ่มงบประมาณต่อต้านความยากจนคือความจำเป็นเร่งด่วน ขณะที่การกีดกันทางการค้าจะส่งผลในทางลบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ



18 รัฐของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงรัฐแคลิฟอร์เนีย และรัฐนิวยอร์ก ยื่นฟ้องประธานาธิบดีทรัมป์ กรณีที่ลงนามในคำสั่งผู้บริหารยกเลิกการนำเงินรัฐบาลกลางสนับสนุนโครงการประกันสุขภาพพื้นฐานหรือที่เรียกกันว่าโอบามาแคร์ โดยอ้างว่าเป็นนโยบายที่ผิดกฎหมาย และการฟ้องร้องทำให้ทั้ง 18 รัฐ ยังได้รับเงินอุดหนุนต่อไปจนกว่าคดีจะสิ้นสุด



ในระหว่างวันที่ 16-26 ตุลาคมนี้ สหรัฐฯ กับเกาหลีใต้จะมีการซ้อมรบร่วมกัน ขณะที่เกาหลีเหนือขู่จะโจมตีออสเตรเลียอีกประเทศหนึ่ง เนื่องจากออสเตรเลียคัดค้านโครงการพัฒนานิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ยังมีการเผยแพร่ภาพถ่ายดาวเทียมที่แสดงให้เห็นว่าเกาหลีเหนือเคลื่อนย้ายขีปนาวุธไปที่จังหวัดพยองอันเหนือ ซึ่งคาดว่าจะมีการยิงขีปนาวุธในเร็วๆ นี้



ด้านนางจูลี บิชอป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลีย ประณามการข่มขู่ของเกาหลีเหนือ ส่วนนายแดน เทฮาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมออสเตรเลีย ระบุว่า ออสเตรเลียไม่ได้หวาดกลัวคำขู่



ส่วนสถานการณ์สงครามในอิรัก กองทัพอิรักโอบล้อมกองกำลังชาวเคิร์ดในจังหวัดเคอร์คุก ซึ่งทำให้สหรัฐฯ ต้องเข้ามาขัดขวาง เพื่อไม่ให้สองพันธมิตรที่ร่วมปราบปรามกลุ่มไอเอส ต้องหันมาต่อสู้กันเอง การเผชิญหน้าในครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ชาวเคิร์ดลงประชามติประกาศเอกราชเมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลอิรักต้องการให้กองกำลังเคิร์ดถอนตัวออกจากเมืองเคอร์คุก นายกรัฐมนตรีไฮเดอร์ อัล-อาบาดี แห่งอิรักยืนยันว่า ไม่ได้ต้องการทำสงครามกับชาวเคิร์ด แต่พบว่านักรบเพชเมอร์กาหลายพันคนของกลุ่มเคิร์ดกระจายกำลังไปทั่วเมือง เพื่อปกป้องพื้นที่



กองทัพอากาศอัฟกานิสถานรับมอบเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์ก ยูเอช-60 จากสหรัฐฯ เพื่อใช้ในการปราบปรามกลุ่มตอลิบานในสงครามที่ยาวนานเข้าสู่ปีที่ 16  ซึ่งนอกจากนี้แล้วผู้นำสหรัฐฯ ยังให้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ทหารอีกมากกว่า 3,000 นายเพื่อให้มีกำลังพล 11,000 นาย ทำหน้าที่ฝึกและให้คำปรึกษาทหารอัฟกานิสถาน



ที่ซีเรีย สมาชิกสภาพลเมืองอัร-ร็อกเกาะฮ์ เปิดเผยว่า กลุ่มนักรบต่างชาติที่สนับสนุนกลุ่มไอเอส เริ่มถอนตัวออกจากเมืองตามข้อตกลงกับกองกำลังประชาธิปไตยซีเรียและนักรบเคิร์ดแล้ว  หลังจากที่กลุ่มนักรบที่สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนประกาศเปิดฉากการสู้รบขั้นสุดท้ายเพื่อยึดเมือง และเมื่อวันเสาร์ทางสภาเมืองเป็นคนกลางเจรจาเพื่อทำข้อตกลงให้นักรบไอเอสอพยพออกจากเมือง ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า อาจหลบหนีไปจังหวัดเดอีร์เอสซอร์ จากนั้นในวันอาทิตย์พบ กลุ่มนักรบชาวต่างชาติกลุ่มหนึ่งเดินทางออกจากเมืองโดยใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์ในระหว่างการเดินทาง



ที่กรุงโมกาดิชู ประเทศโซมาเลีย เกิดเหตุระเบิด 2 ครั้งซ้อน โดยระเบิดครั้งแรกเป็นรถบรรทุกด้านหน้าโรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในย่านที่มีผู้คนพลุกพล่าน ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 85 ศพ บาดเจ็บมากกว่า 100 คน และเชื่อว่าจำนวนผู้เสียชีวิตน่าจะเพิ่มขึ้นอีก เจ้าหน้าที่กู้ภัยระบุว่า ในที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิตทั้งบนพื้นถนน และใต้ซากหักพังของอาคารที่เสียหายจากแรงระเบิด ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่า เป็นการกระทำของกลุ่มอัล ชาบับ ที่ได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์



และในอีก 2 ชั่วโมงถัดมา เกิดเหตุระเบิดในเขตเมดินา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก ประธานาธิบดี โมฮัมเหม็ด อับดุลลาฮี ฟาร์มาโจ ประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศเป็นเวลา 3 วัน โดยจำนวนผู้เสียชีวิตล่าสุดที่อยู่ที่ 189 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 200 ราย



ที่ฟิลิปปินส์ กองทัพรัฐบาลฟิลิปปินส์ ประกาศว่าการทำสงครามปราบปรามกลุ่มไอเอสที่เมืองมาราวี ทางใต้ของประเทศใกล้จะยุติลงแล้ว หลังใช้เวลานาน 4 เดือน มีนักรบไอเอสเสียชีวิตมากกว่า 825 ราย ฝ่ายรัฐบาลเสียกำลังพลไป 162 ราย และชาวบ้านเสียชีวิต 47 ราย



จากฝนตกหนักและดินถล่มในภาคกลางและภาคเหนือของประเทศเวียดนามทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 68 ราย และสูญหายอีก 34 คน มีผู้บาดเจ็บ 32 คน โครงสร้างพื้นฐานเสียหายและมีสัตว์เลี้ยงในฟาร์มต่างๆ ล้มตาย ซึ่งทางการเวียดนามประกาศว่า เป็นหนึ่งในภัยพิบัติที่สร้างความเสียหายมากที่สุดในรอบหลายปี



โดยจังหวัดที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดคือจังหวัดฮัวบินห์ ซึ่งมีเหตุดินถล่มที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 20 รายและสูญหายอีก 8 คน นอกจากนี้พื้นที่การเกษตรยังเสียหายเป็นบริเวณกว้าง สำนักงานชลประทานต้องเปิดประตูระบายน้ำของอ่างเก็บน้ำฮัวบินห์เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี



ไต้ฝุ่นขนุนเคลื่อนตัวเข้าสู่เกาะฮ่องกง ซึ่งเพิ่มระดับการเตือนภัยลำดับที่ 3 โดยไต้ฝุ่นขนุนอยู่ห่างจากเกาะฮ่องกงไปทางใต้ราว 200 กิโลเมตรส่งผลให้มีลมแรงและมีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ผู้บริหารเขตปกครองประกาศงดให้บริการเรือข้ามฟาก และการบิน คาดว่าในวันนี้ไต้ฝุ่นจะเข้าถึงพื้นที่ตอนใต้ของจีน ซึ่งมีการเพิ่มระดับเตือนภัยเป็นสีส้มแล้ว



..

ข่าวทั้งหมด

X